
สมาคมคริสเตียนแห่งไนจีเรีย (CAN) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (23 พ.ย.) ว่า นักเรียน 50 คนจากโรงเรียนคาทอลิกในรัฐไนเจอร์ ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อน สามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จและกลับไปพบครอบครัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม บิชอป บูลัส โยฮันนา ประธาน CAN และเจ้าของโรงเรียนเซนต์แมรี เปิดเผยตัวเลขที่น่ากังวลว่า ยังมีนักเรียนอีกประมาณ 253 คน รวมถึงครูและเจ้าหน้าที่อีก 12 คน ที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ โดยตัวเลขดังกล่าวได้รับการยืนยันหลังการตรวจสอบร่วมกับผู้ปกครอง
หลังกระแสข่าวการหลบหนีแพร่ออกไป ผู้ปกครองจำนวนมากเดินทางมายังโรงเรียนด้วยความหวังว่าบุตรหลานของตนจะอยู่ในกลุ่มที่หลบหนีออกมาได้
ในส่วนของประเด็นความปลอดภัย อาบูบาการ์ อุสมาน เลขานุการรัฐบาลรัฐไนเจอร์ ชี้แจงว่า ทางการเคยมีคำสั่งระงับการก่อสร้างและปิดโรงเรียนประจำในพื้นที่ชั่วคราว หลังได้รับรายงานข่าวกรองเรื่องภัยคุกคาม แต่โรงเรียนเซนต์แมรีกลับมาเปิดการเรียนการสอนโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว
ด้านประธานาธิบดี โบลา ทินูบู ได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมสั่งการจ้างตำรวจเพิ่ม 30,000 นาย และกำชับให้ยกเลิกภารกิจอารักขาบุคคลสำคัญ (VIP) ทั้งหมด เพื่อโยกกำลังพลไปดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเป็นหลัก
สถานการณ์ในไนจีเรียกำลังถูกจับตามองจากต่างชาติ โดยเฉพาะประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อต้นเดือนนี้ ได้ขู่ว่าจะใช้มาตรการทางทหารหากยังมีการคุกคามชาวคริสต์ในไนจีเรีย
ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ได้กล่าวหลังพิธีมิสซาที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม เรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันโดยทันที โดยระบุว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในการลักพาตัวหมู่ที่ร้ายแรงที่สุด
อนึ่ง ปธน.ทินูบูยังเปิดเผยความคืบหน้าอีกเหตุการณ์ในรัฐควารา โดยระบุว่ากองกำลังความมั่นคงสามารถช่วยเหลือประชาชน 38 คนที่ถูกลักพาตัวจากโบสถ์ได้สำเร็จ แต่มีผู้เสียชีวิต 2 รายระหว่างปฏิบัติการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 68)





