
สำนักงานสถิติสิงคโปร์รายงานในวันนี้ (24 พ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่รวมต้นทุนที่อยู่อาศัยและการขนส่งในภาคเอกชน อยู่ที่ระดับ 1.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าในเดือนก.ย. ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.7%
ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนต.ค. ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 ซึ่งเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% โดยข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้สิงคโปร์เผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมากขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์พุ่งขึ้นอย่างมากนั้น มาจากการเพิ่มขึ้นของราคาเสื้อผ้าและรองเท้า ตลอดจนบริการสุขภาพ
ในส่วนของตัวเลขเงินเฟ้อตลอดปี 2568 ทางการสิงคโปร์ประมาณการว่า เงินเฟ้อฟื้นฐานโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 0.5% และคาดว่าในปี 2569 เงินเฟ้อพื้นฐานโดยเฉลี่ยจะอยู่ในช่วง 0.5-1.5%
การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในวันนี้มีขึ้นหลังจากกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 ขยายตัว 4.2% ขณะเดียวกัน MTI ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2568 ขึ้นเป็นประมาณ 4% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.5-2.5%
ด้านธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจยังคงมีเสถียรภาพ ส่วนการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปของ MAS จะมีขึ้นในเดือนม.ค.ปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 68)





