ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก กลุ่มเทคฯ ฟื้นตัวรับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (24 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ฟื้นตัวขึ้น หลังบรรยากาศการซื้อขายดีขึ้นจากความคาดหวังมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าของแผนสันติภาพยูเครน

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 562.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.78 จุด หรือ +0.14%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,959.67 จุด ลดลง 22.98 จุด หรือ -0.29%
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,239.18 จุด เพิ่มขึ้น 147.31 จุด หรือ +0.64% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,534.91 จุด ลดลง 4.80 จุด หรือ -0.05%

 

แรงหนุนในตลาดมาจากการที่ จอห์น วิลเลียมส์ กรรมการเฟดส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยในระยะใกล้ ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. แม้เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนยังเห็นต่างต่อแนวโน้มนโยบายท่ามกลางภาวะข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังไม่ชัดเจน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นแรงหนุนหลัก โดยเพิ่มขึ้น 1.4% หลังร่วงแรงในวันศุกร์ โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นตัวนำการปรับตัวขึ้น โดยหุ้นผู้ผลิตอุปกรณ์ชิป ASML พุ่ง 3.1% ขณะที่หุ้น Infineon พุ่งขึ้น 3% ส่วนหุ้น Siemens Energy ซึ่งจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้โรงงานผลิตชิป ดีดขึ้น 5.5% หลังจากร่วง 10.1% เมื่อวันศุกร์

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการ และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน เพิ่มขึ้นราว 1.9% ขณะที่กลุ่มก่อสร้างและวัสดุเพิ่ม 1.5% และหุ้นยานยนต์ยุโรปบวก 1% โดยโกลด์แมน แซคส์มองว่าผู้ผลิตรถพรีเมียมยุโรปยังถูกตีมูลค่าต่ำเกินไป โบรกเกอร์เริ่มแนะนำซื้อหุ้น Mercedes และ BMW ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.8% และ 2.3% ตามลำดับ ส่วนหุ้น Stellantis พุ่งขึ้น 3.4% หลังโบรกเกอร์แนะนำลงทุนเป็นถือ

หุ้นกลุ่มกลาโหมยุโรปร่วงลง 2.1% ท่ามกลางการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อยุติสงคราม ทั้งสองประเทศระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่าได้ร่างกรอบสันติภาพฉบับปรับปรุงแล้ว หลังมีการปรับข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ฝ่ายยูเครนและยุโรปมองว่าเป็นการเข้าข้างรัสเซียมากเกินไป

หุ้น Renk, Rheinmetall, Hensoldt และ Saab ร่วง 4.3% ถึง 5.6%

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยงบประมาณประจำปีของอังกฤษในวันพุธนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องภาษี รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)