หุ้นไทยปิดลบ 23.69 จุด บอนด์ยีลด์กดดันต่อเนื่อง-กังวลสงครามยืดเยื้อบานปลาย

SET ปิดวันนี้ที่ 1,399.35 จุด ลดลง 23.69 จุด (-1.66%) มูลค่าการซื้อขาย 52,983.02 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ รับความกังวลสงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยืดเยื้อ และกังวลสถานการณ์บานปลาย ส่งผลนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และ Bond Yield สหรัฐฯ พุ่งเกือบ 5% หลังประธานเฟดให้ความเห็นยังมีความจำเป็นขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น แนวโน้มสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสต่อเนื่อง พร้อมให้แนวต้าน 1,410-1,420 แนวรับ 1,380-1,390 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,399.35 จุด ลดลง 23.69 จุด (-1.66%) มูลค่าการซื้อขาย 52,983.02 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,400 จุด โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,397.80 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,422.23 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 61 หลักทรัพย์ ลดลง 508 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 84 หลักทรัพย์

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากปัจจัยสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง และกังวลสถานการณ์จะบานปลาย โดยเฉพาะความพยายามของประธานาธิบดีสหรัฐที่จะของบประมาณในการช่วยอิสาราเอลในการสู้รบกับกลุ่มฮามาส ทำให้สงครามอาจขยายวงกว้างขึ้น ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง

ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) รัฐบาลสหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นต่อเนื่องแตะระดับเกือบ 5% หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความเห็นในการที่ยังมีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ และเป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้น

แนวโน้มในสัปดาห์หน้ายังคงต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางต่อตลาดหุ้น แต่มองว่าดัชนี SET ที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก อาจจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนระยะกลาง-ยาว สามารถทยอยเข้าสะสมได้ โดยให้แนวต้าน 1,410-1,420 แนวรับ 1,380-1,390 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,684.70 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,445.91 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 3.75 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,362.71 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,711.50 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,567.08 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top