หุ้นไทยปิดลบ 2.57 จุด แกว่งไซด์เวย์หลังขาดปัจจัยบวกใหม่

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,338.35 จุด ลดลง 2.57 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 56,111.40 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,349.91 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,337.03 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 454 หลักทรัพย์ ลดลง 1,020 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 326 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันต่างรอดูความชัดเจนในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีน และสหรัฐฯ, ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้

สำหรับตลาดบ้านเราก็มีการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว ตามปัจจัยเฉพาะตัวของแต่ละกลุ่ม แต่ละตัวกันไป อย่างวันนี้กลุ่มที่หนุนตลาดฯก็จะเป็นกลุ่มเครื่องดื่ม และกลุ่มอิเล็กคทรอกนิกส์ ที่ต่างปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นหลัง DELTA ประกาศงบฯออกมาดีกว่าคาดมาก ทำให้มีแรงเก็งกำไรตัวอื่น ส่วนกลุ่มแบงก์จะถ่วงตลาดฯ หลังจากที่งบฯไตรมาส 2/63 ไม่ดี และคาดว่าไตรมาส 3/63 จะไม่ดีอีก เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่จบ และธนาคารพาณิชย์ก็ยังต้องช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด อย่างไรก็ดี ช่วงนี้จะต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป โดยพรุ่งนี้ PTTEP จะประกาศงบฯ

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังพักตัว พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,189.93 ล้านบาท ปิดที่ 83.00 บาท ลดลง 2.75 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,863.26 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,776.60 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
CBG มูลค่าการซื้อขาย 1,761.17 ล้านบาท ปิดที่ 126.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,754.38 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top