หุ้นไทยปิดลบ 9.85 จุด สัปดาห์หน้าผันผวนตามไวรัส เกาะติด กนง.-ประมูล 5G

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,514.14 จุด ลดลง 9.85 จุด (-0.65%) มูลค่าการซื้อขาย 56,329.59 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ แม้ WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินไวรัสโคโรนาประเด็นประเด็นบวกต่อความร่วมมือสกัดกั้นโรคระบาด แต่ยังต้องติดตามว่าเอาอยู่หรือไม่ ส่วนบ้านเรากำไร บจ.แผ่ว-บาทอ่อนค่าเร็วกระตุก Fund Flow ไหลออก สัปดาห์หน้าตลาดฯยังต้องติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนาต่อไป พร้อมทั้งประชุม กนง.-ประมูล 5G ให้แนวรับ 1,500 แนวต้าน 1,540 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,514.14 จุด ลดลง 9.85 จุด (-0.65%) มูลค่าการซื้อขาย 56,329.59 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,532.09 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,514.14 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 546 หลักทรัพย์ ลดลง 961 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 474 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ได้กลับมาติดลบจากที่บวกในช่วงเช้า เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่

ขณะที่ตลาดยุโรปเคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบสลับกัน หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก แต่ไม่ได้กีดกันด้านการค้าและการขนส่งกับจีน เป็นเพียงการสกัดกั้นโรคระบาด ซึ่งมองเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เกิดความร่วมมือกันของชาติต่าง ๆ ในการควบคุมโรค แต่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นถึง 20-30% ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงต้องติดตามว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้จริงหรือไม่

ส่วนบ้านเรากำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แผ่วลงและเงินบาทก็อ่อนค่าเร็ว เป็นการกระตุกให้ Fund Flow ไหลออก เพื่อไม่ให้มีผลต่อ Capital gain และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX) ยิ่งออกช้าก็อาจจะเกิดผลไม่ดี

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงผันผวนตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ซึ่งจุดพีคน่าจะอยู่ในเดือน ก.พ.63 อีกทั้งยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 ก.พ.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่หากมี Surprise ก็อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ และในวันที่ 4 ก.พ.ต้องติดตามว่าการประมูล 5G ว่ามีรายใดยื่นประมูลบ้าง

พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,114.40 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,015.87 ล้านบาท ปิดที่ 70.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,989.58 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,690.17 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,947.28 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top