หุ้นไทยปิดเช้าพุ่ง 15.30 จุด ดีกว่าตลาดภูมิภาค ได้แรงหนุนจากหุ้นบิ๊กแคป

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,260.24 จุด เพิ่มขึ้น 15.30 จุด (+1.23%) มูลค่าการซื้อขายราว 19,286 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นได้ดีกว่าตลาดภูมิภาคที่ต่างบวกกันเฉลี่ย 0.8% รับ Sentiment บวกจากต่างประเทศ หลังศาลสหรัฐฯระงับคำสั่งของคณะทำงาน”ทรัมป์”ในการแบน TikTok นอกจากนี้คลายกังวลการเมืองในประเทศ ส่งหุ้นขนาดใหญ่วันนี้ปรับขึ้นชัดเจน โดยกลุ่มแบงก์-รับเหมาฯที่มีแรงซื้อกลับหลังถูกกดดันมากสุดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดฯมีโมเมนตัมดีขึ้น บ่ายนี้ตลาดฯคงจะยังแกว่งในแดนบวกได้ โดยให้แนวรับ 1,250 แนวต้าน 1,270-1,280 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,260.24 จุด เพิ่มขึ้น 15.30 จุด (+1.23%) มูลค่าการซื้อขายราว 19,286 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,261.17 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,251.12 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับขึ้นเฉลี่ย 0.8% รับ Sentiment บวกจากต่างประเทศ หลังจากที่ศาลของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ระงับคำสั่งของคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการห้ามดาวโหลดแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) จากแอปสโตร์ของบริษัทแอปเปิลและกูเกิล

นอกจากนี้ การเมืองในประเทศก็เริ่มมีหนทางที่จะไปได้มากขึ้นทำให้คลายความกังวลไปได้บ้าง และหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อคืนหลังจากที่ถูกกดดันมากสุดในช่วงที่ผ่านมา ส่วนจะฟื้นตัวได้มากแค่ไหนยังไม่ชัด แต่ทั้งนี้หุ้นขนาดใหญ่วันนี้ปรับตัวขึ้นชัดเจน ทำให้ตลาดมีโมเมนตัมดีขึ้น

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ โดยมีแนวรับ 1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,270-1,280 จุด

พร้อมกันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ ในการพิจารณาโครงการ”คนละครึ่ง” และการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ ส่วนนอกประเทศก็ให้รอติดตามการดีเบตของผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 30 ก.ย.นี้, ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการของจีนในวันที่ 30 ก.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯงวดไตรมาส 2/63 ครั้งสุดท้าย และในวันศุกร์นี้ (2 ต.ค.) ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
STGT มูลค่าการซื้อขาย 1,175.15 ล้านบาท ปิดที่ 78.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 797.32 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 779.56 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 554.28 ล้านบาท ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 464.35 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top