หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ หลังทรัมป์กลับลำหนุนแผนกระตุ้น ศก.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-ดัชนีฯขึ้นสลับย่อ คล้ายตลาดภูมิภาค หลัง”ทรัมป์” กลับลำหันมาหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตลาดอาจยังไม่เชื่อมากนักเพราะไม่มี Action ออกมาก จึงน่าจะเป็นแค่พยุงตลาดมากกว่า ส่วนบ้านเราได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาหลายอย่าง หุ้นที่ได้ประโยชน์ก็น่าจะขยับขึ้นได้ และอาจมีเก็งเปิดตัวไอโฟน 12 ใทยสัปดาห์หน้าด้วย แต่ตลาดอาจเผชิญแรงขายทำกำไร เหตุยังไม่รู้การชุมนุมการเมือง 14 ต.ค.จะเป็นอย่างไร พร้อมให้แนวรับ 1,250 แนวต้าน 1,270 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยดัชนีฯจะมีทั้งปรับตัวขึ้นและย่อตัวลง คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ หันกลับมาให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ตลาดก็ยังไม่เชื่อมากนัก เนื่องจากยังไม่มี Action ออกมาชัดเจน ดังนั้น ความสำคัญก็จะลดลง ก็น่าจะเป็นแค่การพยุงตลาดมากกว่า

ส่วนตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาหลายอย่าง โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ก็น่าจะขยับขึ้นไปได้ดี แต่ตลาดฯก็ได้ตอบรับไปมากแล้ว ดังนั้น จึงมองว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมามากกว่า เนื่องจากยังไม่รู้การชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 14 ต.ค.นี้จะเป็นอย่างไร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ยังไม่มีความแน่นอน แต่ก็ยังเล่นเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัวไอโฟน 12 ในไทยในสัปดาห์หน้าได้

พร้อมให้แนวรับ 1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,270 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,303.46 จุด เพิ่มขึ้น 530.70 จุด (+1.91%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,419.45 จุด เพิ่มขึ้น 58.50 จุด (+1.74%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,364.60 จุด เพิ่มขึ้น 210.00 จุด (+1.88%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 83.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 20.47 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 86.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 21.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.06 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.96 จุด
  • ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ต.ค.63) 1,263.71 จุด เพิ่มขึ้น 13.56 จุด (+1.08%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,129.68 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ต.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ต.ค.63) ปิดที่ 39.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ต.ค.) อยู่ที่ 1.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.23 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดกังวลความไม่แน่นอนการเลือกตั้งสหรัฐฯ
  • ศบศ.เคาะ “ช้อปดีมีคืน” ลดหย่อนภาษีสูงสุด 3 หมื่นบาทต่อราย กระตุ้นบริโภค 3.7 ล้านคน ชง ครม. สัปดาห์หน้า ปรับเที่ยวด้วยกันในจังหวัดได้ “สุพัฒนพงษ์”คาด 3 มาตรการดันบริโภคไตรมาสสุดท้าย 2 แสนล้าน ค้าปลีกเฮรับ”ช้อปดีมีคืน” กระตุ้นใช้จ่ายไฮซีซันเสริมพลัง “คนละครึ่ง” แนะลดภาษีนำเข้าสินค้าไลฟ์สไตล์ควบคู่
  • กกร.ห่วงเศรษฐกิจ ไตรมาส 4 หลังพบความเสี่ยงเพิ่มหลายด้าน โดยเฉพาะโรคโควิดที่กลับมา ระบาดหนักในหลายประเทศ ย้ำหากไทยยังคุมได้ดี มีลุ้นฟื้นตัวต่อเนื่อง จี้รัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือภาคท่องเที่ยว หวังรักษาจ้างงาน ด้าน กนง. กังวล 3 ปัจจัยฉุดเศรษฐกิจคู่ค้าโตต่ำคาด สะเทือนถึงเศรษฐกิจไทย
  • นายกฯขอนายแบงก์ ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน ขณะที่ กนง.เปิดรายงานนโยบายการเงินฟันธงหนทางของหน้าเศรษฐกิจไทยเต็มไปด้วยขวากหนามเผชิญสารพัดปัจจัยเสี่ยงทั้งจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า ตราสารหนี้ทั่วโลกมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ เปิดรับนักท่องเที่ยวสะดุด โควิดระบาดรอบ 2 ปัญหาคนตกงานเพิ่ม ขณะที่ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มขึ้นทำได้ยาก
  • นายดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปริมาณการค้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (น้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติ) ของธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (เทรดดิ้ง)จะปรับตัวลดลง 8-10% จากระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความต้องการใช้ในโลกลดลงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ยังมั่นใจว่า จะสามารถทำกำไรให้กับ ปตท.ได้เนื่องจากมีความเข้มแข็งในด้านการบริการจัดการและมีการวางระบบบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม

หุ้นเด่นวันนี้

  • SK (บมจ.ศิรกร) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีราคาขาย IPO 0.80 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส (เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายฯ) ประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 1 บาท อิง PE 12 เท่า โดยคาดกำไรปีนี้ -51% Y-Y จาก Gross Margin ที่หดตัวแรงเพราะต้องแก้งาน แต่คาดกลับมาฟื้นตัว +56% Y-Y ในปี 2564 ทั้งนี้ SK ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตอัดแรงโดยเฉพาะเสาไฟฟ้า สายส่ง เป็นต้น โดยมีลูกค้าหลักคือกฟภ. และมีโรงงานครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
  • AEC-W6 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบล.เออีซี (AEC)) เทรดวันนี้วันแรกใน SET มีจำนวน 1,530,311,247 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาใช้สิทธิ 0.20 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 ธ.ค.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ก.ย.66
  • CWT-W5 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT)) เทรดวันนี้วันแรกใน SET มีจำนวน 62,993,848 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาใช้สิทธิ 3.50 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 ก.ย.65 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 29 ก.ย.66
  • CRC (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร”เป้า 30.50 บาท คาดได้อานิสงส์เชิงบวกมากที่สุดจากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” จากการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกครบวงจรทั้ง Central Robinson Tops PowerBuy SuperSport และเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงหากวัคซีนโควิด-19 สำเร็จ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาในประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (8 ต.ค. 63)

Tags: , , , , , , , , , ,
Back to Top