หุ้นไทยปิดลบ 6.47 จุด สัปดาห์หน้าจับตา GDP Q4/62 ของไทย

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,526.30 จุด ลดลง 6.47 จุด (-0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 61,837.84 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายตลาดภูมิภาค ชะลอลงทุนหลังตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากที่จีนปรับเกณฑ์ตรวจเข้มงวดขึ้น และช่วงนี้ตลาดฯไร้ปัจจัยใหม่ อย่างไรก็ดีให้ติดตามประมูล 5จี ใน 16 ก.พ.นี้ และติดตาม GDP ของไทยงวดไตรมาส 4/62 จะที่ออกมาในวันจันทร์หน้า

รวมถึงติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 ก.พ. และในสัปดาห์หน้าติดตามงบฯที่จะทยอยประกาศออกมาบ้างขึ้น สัปดาห์หน้าตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,510 แนวต้าน 1,550 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,526.30 จุด ลดลง 6.47 จุด (-0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 61,837.84 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,540.46 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,524.15 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 687 หลักทรัพย์ ลดลง 925 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 471 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบหลังจากที่ปรับขึ้นไปในช่วงต้นสัปดาห์ และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้นหลังจีนปรับเกณฑ์ตรวจเข้มงวดขึ้น ทำให้หลายตลาดฯดูเหมือนจะชะลอการลงทุนบ้าง อีกทั้งช่วงนี้ตลาดฯก็ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา

อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประมูลคลื่น 5จี ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ และติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยงวดไตรมาส 4/62 ที่จะประกาศในวันจันทร์หน้า (17 ก.พ.) รวมถึงให้ติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่ 21 ก.พ. อีกทั้งให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะออกมามากขึ้นในสัปดาห์หน้า

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 8,184.04 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,818.30 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง 2.75 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,930.90 ล้านบาท ปิดที่ 24.00 บาท ลดลง 0.70 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,930.01 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,924.42 ล้านบาท ปิดที่ 2.60 บาท ลดลง 0.02 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 63)

Tags: , , ,
Back to Top