CRC ปิดเทรดวันแรก 41.75 บาท ต่ำกว่า IPO

CRC ปิดเทรดวันแรก 41.75 บาท ต่ำกว่าราคาขาย IPO 0.60%, พบบิ๊กล็อตกว่า 2 ล้านหุ้น

หุ้น CRC ปิดเทรดวันแรกที่ 41.75 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.60%) จากราคาขาย IPO ที่ 42 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 7,637.06 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 42 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 42.25 บาท และราคาลงต่ำสุด 41.50 บาท

นอกจากนี้พบบิ๊กล็อต CRC 2 รายการ จำนวน 2,097,066 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 88.08 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 42 บาท

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า วันนี้มีหุ้น IPO ที่มีการระดมทุนมากสุดในประวัติศาสตร์ อย่าง บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เข้าซื้อขายในตลาดฯ เป็นวันแรก และเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจองซื้อจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ช่วยหนุนให้ภาพรวมมูลค่าซื้อขายในตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น

ส่วนนักลงทุนที่ขอใช้สิทธิ SWAP จากหุ้น ROBINS เป็น CRC ก่อนในวันที่ 3 ก.พ.2563 ตามที่ฝ่ายวิจัยแนะนำก็จะได้กำไรทั้งจากการขาย ROBINS ในราคา Tender ที่ 66.5 บาท และยังได้หุ้น CRC ในราคาจองที่ 42 บาท โดยมอง 5 แรงขับเคลื่อนหลัก คือ

1.CRC มีมูลค่ากิจการกว่า 2.6 แสนล้านบาท มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของหุ้นทั้งหมดในตลาดฯ (เข้าเกณฑ์ตลาดมีขนาดใหญ่สุด 1 ใน 20 อันดับแรก) และมีสัดส่วน 1.6% ของตลาด (เข้าเกณฑ์ตลาดสูงกว่า 1%) จึงมีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ได้ทันทีหลังเข้าตลาด T+3 โดย T คือวันซื้อขายในวันแรก โดยใช้ราคาปิดวันที่ 24 ก.พ. 2653

2.ระหว่างช่วง T+3 คาดว่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันฯ เข้ามาช่วยหนุน เนื่องจากเม็ดเงินที่จองซื้อหุ้น CRC ก่อนเข้าตลาดฯจาก 6 บลจ.ไทย ยังน้อยกว่าสัดส่วน Market cap ของ CRC ในตลาดฯ คาดมีเม็ดเงินหนุนเพิ่มอีก รวมถึงมีแรงเก็งกำไรจากกองทุนประเภท Active Fund ในช่วงก่อนที่หุ้น CRC จะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และSET100

3.มีเม็ดเงินจากกองทุนประเภท Index Fund ที่มีวัตถุประสงค์ลงทุนอ้างอิงตามดัชนี คอยหนุนราคาหุ้น ณ วันที่ T+3

4.มี greenshoe อีกกว่า 169 ล้านหุ้น (10% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้) คอยหนุนไม่ให้ราคาหุ้นต่ำจองในระยะเวลา 1 เดือน

5.MSCI ประกาศนำหุ้น CRC เข้ามาในดัชนี MSCI Global Standard แทน ROBINS ทันที โดยมีผลบังคับใช้ในราคาปิดวันนี้ นอกจากนี้คาดว่าน่าจะเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Global Large Cap. เช่นเดียวกับกรณีของ AWC (ประกาศหลังจากเข้าซื้อขาย 1 วัน)

ทั้ง 5 ปัจจัยที่กล่าวมา น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้น CRC ให้ Outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้ และน่าจะยืนเหนือจองได้ในระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้

ขณะที่ภาพรวมประเมินกำไร CRC เบื้องต้น ปี 2563 หากกำหนด 1) ใช้ฐานกำไร 4 ไตรมาสล่าสุด (Q4/61 – Q3/62) ราว 6.5 พันล้านบาท และ 2) รวมงบ ROBINS อีก 46.17% ปี 2563 ราว 1.4 พันล้านบาท + ผลกำไรที่ต่ำกว่าปกติของ CRC จากผลประโยชน์พนักงาน จะทำให้ฐานกำไรปี 2563 ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว อยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% จากกำไร 4 ไตรมาสล่าสุด คิดเป็นกำไรต่อหุ้นราว 1.3 บาท เทียบกับราคา IPO จะมีค่า PER’63 ราว 31.7 เท่า ถือเป็นระดับสมเหตุสมผล หากอิงค่าเฉลี่ย PER และการเติบโตกำไรกลุ่มปี 2563 ที่ 30.7 เท่า และ 11.9% ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 63)

Tags: , , ,
Back to Top