เงินบาทเปิด 30.14 ทรงตัวจากวานนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.14 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.14/16 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีส่งผลให้มีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาด

“บาททรงตัวใกล้เคียงกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลักหลังมีแรงซื้อกลับเข้ามา” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินในวันนี้ไว้ที่ 30.05-30.20 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.09629% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.12363%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 108.31 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.85/87 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1175 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1202/1205 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.1100 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ยอมรับว่าเงินบาทที่แข็งค่าจะกระทบต่อภาคการส่งออก แต่ยังเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถบริหารจัดการ และที่ผ่านมาธปท.ได้ออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทมาระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับหากมีคณะกรรมการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน ที่มีทั้งกระทรวงการคลัง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ รมว.คลังดำเนินการนั้น จะช่วยทำให้ค่าเงินบาทของไทยกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม คลังยังหวังว่าส่งออกของไทยในปี 2563 นี้ จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าปี 2562 โดยยังคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเป็นบวกได้ที่ 2.6%
  • ส.อ.ท.เสียวแว้บเงินบาทหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงสิ้นปี ย้ำชัดหากปีนี้ยังแข็งต่อเห็นธุรกิจปลดคนงานเพิ่มขึ้นแน่ ด้าน ธปท.ย้ำดูแลค่าเงินบาทใกล้ชิด โดยวานนี้ (2 ม.ค.) กลับมาปกติเหนือ 30 บาทแล้ว ขณะที่คลังแบไต๋คณะกรรมการเสถียรภาพการเงินที่รัฐบาลตั้งสั่งใครไม่ได้
  • “บิ๊กตู่” เผยคลัง-ธปท. จับมือตั้งทีมงานดูแลเสถียรภาพการเงินเพื่อติดตามเงินบาทใกล้ชิด พร้อมแนะผู้รู้เสนอแนวทางแก้เศรษฐกิจดีกว่าวิจารณ์อย่างเดียว “สนธิรัตน์” ยอมรับบาทแข็งกระทบเศรษฐกิจประเทศ ยันทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ คลังสรุปโครงสร้างบอร์ดเสถียรภาพการเงิน ดึงขุนคลัง-ผู้ว่าฯ ธปท. นั่งประธานร่วม ด้าน ส.อ.ท.หวั่นฉุดส่งออกปี 63 อีกระลอก หลังสิ้นปีส่งสัญญาณหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นร้อนแรงประเดิมปีหนู บวกเกือบ 16 จุด ส่วนครม.แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนนั่งบอร์ด คนร. ช่วยขับ
    เคลื่อนรัฐวิสาหกิจไทย
  • “พาณิชย์” คาดส่งออก ปีนี้โตสุดที่ 3% เตรียมถกเอกชน-ทูตพาณิชย์ทั่วโลกก่อนเคาะเป้าหมายอย่างเป็นทางการ
  • ประธานกรรมการกรุงศรีคอนซูมเมอร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค. นี้ธนาคารกรุงศรีฯได้เริ่มใช้การคำนวณสินเชื่อแบบใหม่กับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน โดยปรับอัตราสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (ดีเอสอาร์) อยู่ที่ 70% และจะใช้กับการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลกับบัตรเครดิตของสายงานคอนซูมเมอร์และสินเชื่อรายย่อยทั้งหมดของธนาคาร ซึ่งจะทำให้ลูกค้าใหม่ลดลง 15% จากลูกค้าใหม่เฉลี่ย 8.5 แสนรายในแต่ละปี เนื่องจากลดความเสี่ยงการเกิดเอ็นพีแอล เพราะส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนที่มีราย
    ได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือนเป็นหลัก
  • กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าภาพรวมการค้าปลีกไทยในปี 63 นี้ไม่เลวร้ายไปกว่าปี 62 ทำให้มั่นใจและเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง เพราะการลงทุนของบริษัทเป็นการลงทุนระยะยาวขณะนี้กำลังจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ย่านพระราม 4 และพระราม 9 จึงไม่สามารถรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจเฉพาะปี 62 เท่านั้น พร้อมกับเชื่อว่ารัฐบาลจะออกมาตรการมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคในระยะสั้นช่วงที่เศรษฐกิจ
    โลกกำลังประสบปัญหา และอาจมีนโยบายที่ช่วยกระตุ้นระยะยาวเพื่อสนับสนุนให้ลงทุนเพิ่ม
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯเผย ทิศทางอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ปี 63 แนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง คาดขยายตัวไม่เกิน 5% หวังมาตรการลดค่าโอนและค่าจด จำนอง กระตุ้นยอดขาย ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเชื่อภาพรวมยังเติบโต ปรับกลยุทธ์รับมือความท้าทายรอบด้าน
  • คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนจะยังคงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงความยืดหยุ่นในระยะยาว
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.4 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่ยังคงขยายตัวในเดือนธ.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากตลาดขานรับธนาคารกลางจีนที่ประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่จะเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เตรียมรายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค., สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เตรียมรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 63)

Back to Top