หุ้นไทยปิดพุ่ง 13.51 จุด ยืนเหนือ 1,600 รับแรงหนุนหุ้น Laggard-เก็งเปิดเมือง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,600.49 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุด (+0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 92,934.26 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้ดีกว่าคาดยืนเหนือ 1,600 ได้ ทั้งที่การฟื้นตัวรอบนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกพิเศษ เพียงได้แรงหนุนหุ้นที่ยัง Laggard-หุ้นที่พักฐานไปมากแล้ว รวมถึงเก็งหุ้นเปิดเมืองคาดหวังคลายล็อกดาวน์ลุ้นผลประชุมศบค.ปลายสัปดาห์นี้ ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งบวกราว 0.3-0.7% ตอบรับความกังวลเฟดลด QE ไปแล้วมองอาจเกิดขึ้นช่วงปลายปี พรุ่งนี้ตลาดฯเสี่ยงย่อตัวลง พร้อมให้แนวรับ 1,590 แนวต้าน 1,612-1,620 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,600.49 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุด (+0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 92,934.26 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,601.09 จุด และระดับต่ำสุด 1,588.37 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 963 หลักทรัพย์ ลดลง 727 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 615 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าคาด โดยดัชนีฯขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้ ทั้งที่การฟื้นตัวรอบนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกพิเศษ เพียงได้แรงหนุนจากหุ้นที่ยัง Laggard และหุ้นที่พักฐานไปพอควรแล้วต่างปรับตัวขึ้นกัน อีกทั้งยังมีการเล่นเก็งกำไรล่วงหน้าหุ้นเปิดเมือง จากความคาดหวังการคลายล็อกดาวน์หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศดีขึ้น ซึ่งจะต้องติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปลายสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดฯตอบรับไปล่วงหน้า

อย่างไรก็ดี มองตลาดฯฟื้นตัวรอบนี้จะอยู่ในกรอบ 1,620-1,630 จุด ยังไม่มองไกลกว่านี้ และหุ้นที่ปรับขึ้นมาถึงจุดนี้หากนักลงทุนจะเล่นตามอาจยังมีความเสี่ยง

ด้านนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.3-0.7% ตลาดบ้านเราก็แกว่งใกล้เคียงกับภูมิภาค โดยตลาดในเอเชียตอบรับความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งที่จริงอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คาด และมองว่าการปรับลด QE ของสหรัฐฯอาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีก็ได้

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า บรรยากาศโดยรวมยังเป็นบวก แต่ตลาดก็ความเสี่ยงที่จะย่อตัวลงได้หลังดัชนีฯยืนเหนือ 1,600 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,612-1,620 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,090.88 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
  • 7UP มูลค่าการซื้อขาย 3,455.58 ล้านบาท ปิดที่ 1.57 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,300.20 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
  • EA มูลค่าการซื้อขาย 2,414.35 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
  • TTA มูลค่าการซื้อขาย 2,184.36 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top