ONEE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 9.70 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 14.12%

หุ้น ONEE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท(+14.12%)จากราคาขาย IPO ที่ 8.50 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 5,912.41 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 10.50 บาท และราคาลงต่ำสุด 9.45 บาท

นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกของ ONEE นับเป็นก้าวสำคัญและเป็นความภาคภูมิใจของทีมผู้บริหาร ทีมงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จของการเสนอขายหุ้น IPO และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ โดย ONEE ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบครบวงจร ด้วยโมเดลธุรกิจที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากรากฐานการเป็น Content Creator ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพที่มีความหลากหลาย ซึ่งคาดว่าจากการตอบรับที่ดีของนักลงทุน สะท้อนถึงความมั่นใจในตัวของบริ้ษัทในศักยภาพของการเป็นนำด้านคอนเทนต์ และมาสร้างการเติบโตต่อยอดให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง

“เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าในวันนี้ ONEE มีความพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเราจะยึดมั่นการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อให้ ONEE เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายที่พร้อมมาร่วมเดินทางและเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนไปด้วยกันกับเรา” นายถกลเกียรติ กล่าว

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ONEE ราคา IPO ที่ 8.50 บาท เมื่อเทียบกับ EPS 4 ไตรมาสล่าสุดที่ 0.37 บาท คิดเป็น Trailing PE ที่ 23x ต่ำกว่า Trailing PE ของหุ้นที่ประกอบธุรกิจคล้ายกันในตลาด (BEC และ WORK) ซื้อขายที่ Trailing PE ที่ 25.6x – 38.7x

ONEE เป็น Holding company มีธุรกิจหลัก คือ การผลิต Content และให้บริการสื่อโฆษณาทีวี (ทีวีดิจิทัลช่อง One31 และ GMM25) วิทยุ (ช่อง Greenwave, EFM และ Chill FM) และออนไลน์ (ทั้ง เพจของตนเองและ Platform ของพันธมิตร) การจัดอีเวนต์ และให้บริการเช่าสถานที่ (สตูดิโอ) เป็นต้น

โครสร้างรายได้ ประกอบด้วยธุรกิจสื่อทีวีและออนไลน์ 69% สื่อวิทยุ 9% รับจ้างผลิต 9% อีเวนต์ 7% และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ 6% (อิงจากปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19)

ผลประกอบการที่ผ่านมา ปี 2563 กำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดด +255% y-y เป็น 634 ล้านบาท เนื่องจากรายได้เติบโต +16% y-y จากการเติบโตของสื่อทีวีและออนไลน์ และการรับจ้างผลิตเป็นหลัก และบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 50.8% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 43.4% และงวดครึ่งแรกปี 64 กำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง +110% y-y เป็น 455 ล้านบาท เนื่องจากรายได้เติบโต +100% เป็น 2,737 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จาก GMMCH ที่บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนเมื่อปลายปี 2563 และบริหารต้นทุนได้ดีต่อเนื่องอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 51.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 45.9%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top