SABUY ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โตกว่า 50%หลังทำ 6 ดีลใหม่-จัดงบ 1.5-2 พันลบ.ทำดีล M&A-JV

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 จะสามารถเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของธุกิจ 4 กลุ่มหลัก  คือ Payment คือกลุ่มธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ , Solution คือ กลุ่มธุรกิจจัดส่งพัสดุ (Drop off) ,Financial กลุ่มธุรกิจเชื่อมต่อการเงิน-บริการชำระเงิน อาทิเช่น ATM และ ADM สุดท้ายคือ Merchandise กลุ่มธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการ รายได้จากการขาย รายได้จากการให้บริการตามสัญญาและดอกเบี้ยผ่อนชำระ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดบริษัทได้อนุมัติเข้าลงทุนใน 6 ดีล ที่จะเข้ามาเสริมสร้างการเติบโตของผลประกอบการในปี 65 เป็นสัดส่วนอย่างน้อย 10-20% ของภาพผลประกอบการโดยรวมคือ

1.อนุมัติให้ SABUY เข้าลงทุนในบริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด (PFS) โดยซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 50% จาก บริษัท แคช แมชชีน แคปปิตอล จำกัด (CMC) มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 1,130,000,000 บาท โดยชำระเป็นเงินสด 360 ล้านบาท และที่เหลือ 770 ล้านบาท จะชำระเป็นหุ้น โดย SABUY ออกหุ้นเพิ่มทุน 70 ล้านหุ้น เพื่อขายแบบเฉพาะเจาะจง (PP) เสนอขายที่ 11 บาท/หุ้น โดย PFS ได้สิทธิติดตั้ง ตู้ ATM จำนวน 10,000 ตู้หน้าร้าน 7-11 ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 ปี และจะให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสผ่านตู้ ATM แทนบริการด้วยพนักงาน

2. อนุมัติให้กลุ่ม SABUY เข้าซื้อทรัพย์สินธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) จำนวน 4,600 ตู้จาก บจก. ฟอร์ท เวนดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ. ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เป็นเงินไม่เกิน 340 ล้านบาท ทำให้กลุ่มบริษัท SABUY มีตู้สินค้าอัตโนมัติเพิ่มขึ้น และมีศักยภาพในการแข่งขันเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่างแท้จริง

3. อนุมัติให้ SABUY ร่วมทุนกับ บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท (FSMART) ในสัดส่วนการถือหุ้น 50% เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ ดำเนินธุรกิจเครือข่าย ร้านรับส่งพัสดุ ซ่อมแซมตู้จำหน่ายสินค้า และพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต โดย SABUY จะถือหุ้น 50% ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท

4. อนุมัติ SABUY ขยายธุรกิจเครือข่ายร้านรับส่งพัสดุทั่วประเทศ เพื่อรองรับธุรกิจ E-Commerce & e-Logistics โดยการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 70% ในบริษัท เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส จำกัด ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 42 ล้านบาท ซึ่งช่วยเพิ่มสาขาบริการให้กับกลุ่มได้อีกกว่า 750 สาขา

5. อนุมัติเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 60% ในบริษัท เอ็มพ้อยท์เอ็กซ์เพรส จำกัด ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 24 ล้านบาท ทำให้มีสาขาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 800 สาขา

6. อนุมัติให้ SABUY เพิ่มการลงทุนในบริษัท เอ. ที. พี. เฟรนส์ เซอร์วิส จำกัด (ชิปป์สไมล์) ซื้อหุ้นเพิ่มไม่เกิน 10% ด้วยเงินไม่เกิน 37.50 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ทำให้ SABUY เพิ่มการถือหุ้นใน Shipsmile จาก 38% เป็น ไม่เกิน 48% ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ราว 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อที่ใช้ในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และ ร่วมลงทุน (JV) เพื่อที่จะขยาย Ecosystem ในธุรของบริษัทโดยเฉพาะในกลุ่มการเงินที่คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนต่อเนื่องในปี 65 โดยบริษัทมีความสามารถในการขยายกิจการในรูปแบบของการร่วมลงทุน และ การเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายปี 64 นี้บริษัทจะมีอัตรส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ต่ำกว่า 1 เท่า จึงยังมีความสามารถในการกู้ยืมได้เพิ่มเติม

“เรายังคงมีกลยุทธ์การขยายกิจการทั้งการขยายกิจการด้วยตัวเอง การร่วมลงทุน และการเข้าซื้อกิจการ เพื่อที่จะเสริมเข้ามาใน Ecosystem ของบริษัท โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 65”

นายชูเกียรติ กล่าว

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่ม บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี (TKS) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเช่นเดียวกันและเชื่อว่า SABUY และ TKS จะสามารถร่วมกันต่อยอดธุรกิจโดยการสร้างสรรค์นวัตกรรม ใหม่ๆ โดยเฉพาะด้าน E-Money ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคในยุคดิจิตอลได้อย่างรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ และ SABUY จับมือร่วมทุนเปิดตัวบริษัท เทโร สบาย จำกัด ผนึกกำลังด้านสื่อโฆษณา การจัดอีเว้นท์ระดับโลก และเทคโนโลยี เชื่อมต่อธุรกิจบันเทิงอย่างครบวงจร การร่วมมือกันในครั้งนี้นับเป็นการผนึกเอาความแข็งแกร่งของ Digital Media & Marketing จากกลุ่มเทโรเข้ากับ Technology & Payment Platform ของกลุ่มสบายได้อย่างลงตัว

SABUY Group ได้ขยายธุรกิจ ใน SABUY Ecosystem อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในหลากหลายกิจการ อาทิ เช่น ธุรกิจ CRM & Loyalty Program, ธุรกิจ Payment System, ธุรกิจ E-Commerce, ธุรกิจ Supply Chain ซึ่งเริ่มต้นในธุรกิจอาหารเป็นลำดับแรก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem ทั้งแบบ Online และ Offline เพื่อตอบสนองสังคมไร้เงินสด (Cashless society) และ e-payment ต่างๆ และสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top