หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาค รอปัจจัยใหม่-จับตาประชุมครม.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายตลาดภูมิภาค แม้นางเจเน็ต เยลเลน จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีคลังสหรัฐคนใหม่แล้ว แต่ตลาดก็รอปัจจัยใหม่หนุน ซึ่งตลาดยังมี Sentiment ดีจากวานนี้ดัชนีฯปิดเหนือ 1,500 จุดได้ แต่อาจเผชิญแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจ.สมุทรสาครวานนี้เพิ่มขึ้นกว่า 900 คนจากการค้นหาเชิงรุก

แต่คาดวันนี้น่าจะชะลอได้ พร้อมให้ติดตามการประชุมครม.วันนี้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มสกัดโควิดอย่างไร และติดตามการทยอยประกาศงบฯต่อไป รวมถึงติดตามการประชุมเฟดใน 26-27 ม.ค.นี้ด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,492 แนวต้าน 1,515 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในแดนลบเล็กน้อย แม้วุฒิสภาสหรัฐมีมติเห็นชอบให้นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่แล้ว แต่ทั้งนี้ ตลาดต่างรอปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ก็ยังมี Sentiment ดีจากที่ดัชนีฯวานนี้สามารถยืนเหนือ 1,500 จุด ได้

ทั้งนี้ ตลาดฯอาจมีแรงกดดันจากที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครกว่า 900 คนเมื่อวานนี้ จากการค้นหาเชิงรุก ซึ่งเชื่อว่าวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อน่าจะชะลอลงได้ อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมเฟด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมให้ติดตามทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาอย่างไรบ้าง ส่วนบ้านเราให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป โดยให้ติดตามงบฯของ SCC, PTTEP ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ และวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการผ่อนคลายการคุมเข้มการแพร่ระบาดอย่างไรบ้าง

พร้อมให้แนวรับ 1,492 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,960.00 จุด ลดลง 36.98 จุด (-0.12%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,855.36 จุด เพิ่มขึ้น 13.89 จุด (+0.36%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,635.99 จุด เพิ่มขึ้น 92.93 จุด (+0.69%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.27 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 125.99 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 266.16 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ม.ค.) 1,501.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.25%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 326.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ม.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ม.ค.) ปิดที่ 52.77 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ม.ค.) อยู่ที่ 1.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 29.99 ทรงตัวจากวานนี้แม้ดอลล์แข็ง แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 29.95-30.05
  • “สมุทรสาคร” ยังไม่พ้นวิกฤติยอดโควิดพุ่งอีก 914 ราย ขณะที่ภาพรวมประเทศผู้ติดเชื้อเหลือ 5 จังหวัด สัปดาห์นี้ลุ้น ศบค.ผ่อนคลายมาตรการ ด้านสธ.เปิดลงทะเบียน “สมัครใจฉีดวัคซีนโควิด-19” 12 ก.พ.นี้ ผ่านไลน์ออฟฟิศเชียล แอคเคาท์ หมอกลุ่มแรกล็อตนำเข้าแอสตร้าฯ 5 หมื่นโดส เข็มแรก 14 กุมภาฯ จับตาอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ต้องเจาะคอช่วยการหายใจ
  • บอร์ด ทอท.สั่งรัดเข็มขัด หั่นค่ารับรองผู้บริหารลง 50% จากที่ได้เฉลี่ย 1-2 หมื่นบาท/เดือน ลดค่าน้ำมันรถ 20% จาก 200 ลิตร/เดือน และเลิกสิทธิเบิกค่าทางด่วน พร้อมให้งดบรรจุพนักงานใหม่แทนเกษียณ “นิตินัย” เผยผู้โดยสารทรุด หลังเจอโควิด-19 ระลอกใหม่
  • กูรู คาดหนี้เสียกลุ่มแบงก์ปี 64 เพิ่มขึ้น เหตุผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ด้าน “ไทยพาณิชย์” รับ เอ็นพีแอลขึ้นต่อแต่ยังอยู่ในทิศทางที่บริหารจัดการได้ จากการเร่งให้การช่วยเหลือลูกหนี้ ขณะที่ศูนย์วิจัยทีเอ็มบี คาดเอ็นพีแอลกลุ่มแบงก์ปีนี้แตะ 6.04 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่ 5.2 แสนล้าน ส่วนบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเมินกำไร 7 แบงก์ปีนี้ตั้งสำรองเพิ่มเป็น 2 แสนล้าน แต่คาดกำไรโต 5% ที่ 1.18 แสนล้าน
  • นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2563 ที่ผ่านมา โดยรวมตลาดลดลง 5% มาอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท จากคาดการณ์เดิมที่ 12,500 ล้านบาท เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลกระทบที่เกิด จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีหยุดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทางเศรษฐกิจ และสมาคมฯ เองก็ได้ลดการจัดกิจกรรมการตลาดเหลือเพียงครั้งเดียวเดือนตุลาคม จากปกติในแต่ละปีจะจัด 2 ครั้ง
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 26-27 ม.ค. 64 นี้ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ ไว้ที่กรอบ 0-0.25% ตามเดิม และน่าจะไม่มีการประกาศใช้เครื่องมือผ่อนคลายทางการเงินอื่น ๆ เพิ่มเติม แม้เฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง แต่จะยังย้ำถึงความจำเป็นของการเร่งผลักดันมาตรการฝั่งการคลังจากรัฐบาลใหม่ของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อให้ทั้งนโยบายการเงินการคลังมีส่วนช่วยจำกัดความเสี่ยงและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในระยะข้างหน้า

หุ้นเด่นวันนี้

  • PTG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 24.50 บาท คาดกำไร Q4/63 ทำ New High +6% Q-Q, +59% Y-Y จากค่าการตลาดที่ทรงตัวในระดับที่ดี 1.8-1.9 บาทต่อลิตร ปริมาณขายที่สูงขึ้น รวมถึง EBITDA ของธุรกิจ Non-Oil ที่ฟื้นตัว แนวโน้ม Q1/64 ได้รับผลกระทบบ้างจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่คาดไม่หนักเท่าปีก่อน ขณะที่กำไรธุรกิจไบโอดีเซลที่สูงขึ้นจากนโยบายสนับสนุนของรัฐ คาดกำไรปี 2564-2565 โตต่อเนื่อง 11% Y-Y และ 7% Y-Y ตามลำดับ
  • TU (ทรีนีตี้) “ซื้อ”เป้า 18.40 บาท คาดกำไร Q4/63 อยู่ที่ 1,440 ล้านบาท อ่อนตัว 30%QoQ แต่ยังโต 36%YoY โดยคาดยอดขายรวมอ่อนตัวเนื่องจากเข้า Low Season แต่ทั้งอาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็งซึ่งเป็นธุรกิจหลักยังมีแนวโน้มดี ด้านธุรกิจของ Red Lobster อาจมีส่วนแบ่งขาดทุนเพิ่มขึ้น หลังเข้า Low Season เช่นกัน และยังอาจได้รับผลกระทบจากโควิด รอบใหม่ อย่างไรก็ดีคาดปี 64 กำไรยังโตได้ โดยยอดขายอาหารทะเลกระป๋องอาจอ่อนตัวลงบ้าง แต่ยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งจะฟื้นตัว
  • COM7 (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 48 บาท สินค้าไอทียังขายดีไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มือถือ เกมส์ และอื่นๆ จึงคาดรายได้ปี 2564 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าขยาย 70 สาขาในปี 2564 ขณะเดียวกันช่องทางการขายแบบออนไลน์ก็ได้รับความนิยมดี ระยะสั้นมีแคมเปญ ที่ร่วมกับ Shopee เข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขาย พร้อมประเมินกำไรสุทธิใน ปี 2563-2564 ที่ 1.27 พันล้านบาท และ 1.53 พันล้านบาท เติบโต +4.7%YoY, +20%YoY ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top