หุ้นไทยปิดลบ 1.33 จุด อ่อนตัวจากแรงขายทำกำไรรอความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐ

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,516.94 จุด ลดลง 1.33 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 74,892.44 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา และมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาระหว่างรอความคืบหน้ารายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่งผลให้ภาวะตลาดนิ่งและ Wait and See ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังดี แต่คาดตลาดพรุ่งนี้อาจซึมต่อเนื่องช่วงก่อนเข้าวันหยุดยาว พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด แนวต้าน 1,530 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,516.94 จุด ลดลง 1.33 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 74,892.44 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,527.88 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,513.13 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 450 หลักทรัพย์ ลดลง 1,072 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 476 หลักทรัพย์

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ภาพตลาดโดยรวมเงียบเหงา หลังจากช่วงต้นสัปดาห์มีแรงซื้อเข้ามาตลาดค่อนข้างมาก จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐแต่ตลาดหุ้นสหรัฐก็เริ่มชะลอตัวและหันมารอความคืบหน้ารายละเอียดของมาตรการกระตุ้น ขณะที่ดัชนีชี้วัดการลงทุนอื่น เช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เงินดอลลาร์สหรัฐ ก็อ่อนตัวลง ทำให้ตลาดเกิดภาวะชะลอตัวและมีแรงขายทำกำไรออกมา

“ไม่ว่าจะตลาดหุ้นไทย หรือเอเชีย แกว่งตัวไซด์เวย์มากกว่า ไม่ได้เป็นแรงชาย แต่หยุด ไม่ซื้อไม่ขาย Flow ที่เข้ามาก็หยุดเลยไม่เพิ่ม เหมือนตลาด freeze หุ้นอย่างกลุ่มธนาคารก็ถูก Take Profit ทำให้บรรยากาศตลาดเสีย คงรอดูตลาด Wait & see”

นายมงคล กล่าว

ทั้งนี้ จากการติดตามข่าวของ นายโจ ไบเดิน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีการเรียกภาคเอกชน และว่าที่รมว.คลังมาพูดคุยแล้ว จึงต้องรอดูว่าผลจะเป็นอย่างไรต่อไป และขณะนี้ตลาดหุ้นเหมือนสูญญากาศมีสภาพนี้มา 2 วันแล้ว

นายมงคล กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ปัจจัยนอกประเทศมีน้ำหนักมากกว่า ส่วนในประเทศปัจจัยต่าง ๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิดได้ดีขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว ไม่เช่นนั้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะไม่ปรับตัวขึ้น เพียงแต่ขณะนี้รอดติดตามความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ว่าจะมีข้อสรุปหรือรายละเอียดอย่างไร และจะเริ่มเมื่อใด ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน

แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้คาดว่าจะซึมๆ คล้ายวันนี้ เพราะรอความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และปัจจัยใหม่ ก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว พร้อมให้แนวรับที่ 1,510 จุด แนวต้านที่ 1,530 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • BAM มูลค่าการซื้อขาย 3,475.56 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,209.20 ล้านบาท ปิดที่ 80.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,996.77 ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,991.47 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,625.75 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top