หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มขึ้นตามเอเชียขานรับ”ไบเดน”เผยแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดเอเชียที่เช้านี้บวกกันทั่วหน้า ขานรับ”ไบเดน”เผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ และตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐ และหลายประเทศส่วนใหญ่ออกมาดี แต่พรุ่งนี้ตลาดสหรัฐ-ตลาดในยุโรปจะเริ่มปิดทำการเนื่องในวันอีสเตอร์ และฝรั่งเศสก็ล็อกดาวน์ ประกอบกับยังต้องรอดูผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสด้วย อย่างไรก็ดี ช่วงหลังเห็นแรงซื้อของกองทุนในประเทศจากปรับพอร์ตหลังการท่องเที่ยวดูดี พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,570 แนวต้าน 1,592-1,600 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า ขานรับประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยแผนการดังกล่าวครอบคลุมถึงการใช้จ่ายในระยะเวลา 8 ปี และมีเป้าหมายที่จะสร้างงานหลายล้านตำแหน่ง และมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาดีด้วย จากตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯที่ออกมาดี และยังมีอีกหลายประเทศส่วนใหญ่ที่ตัวเลขภาคการผลิตออกมาดี

แต่ทั้งนี้ พรุ่งนี้ตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปจะเริ่มปิดทำการเนื่องในวันอีสเตอร์ และฝรั่งเศสก็มีการล็อกดาวน์ ประกอบกับยังต้องรอดูผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสด้วย

อย่างไรก็ดี ช่วงหลังจะเห็นแรงซื้อของกองทุนในประเทศเข้ามา ซึ่งก็อาจเป็นการปรับพอร์ตหลังจากที่ภาคการท่องเที่ยวดูดีขึ้น แต่สัปดาห์หน้าก็จะเริ่มมีการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแล้วซึ่งก็ต้องติดตามดูจะเป็นอย่างไร

พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,592-1,600 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,981.55 จุด ลดลง 85.41 จุด (-0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,972.89 จุด เพิ่มขึ้น 14.34 จุด (+0.36%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,246.87 จุด เพิ่มขึ้น 201.48 จุด (+1.54%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.90 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 263.11 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 216.2 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 มี.ค.) 1,587.21 จุด ลดลง 2.32 จุด (-0.15%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 263.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 มี.ค.) ปิด 59.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 มี.ค.) อยู่ที่ 1.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.24 เคลื่อนไหวตามตลาดโลก หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน
  • รมว.คลัง แนะธุรกิจอสังหาฯ ปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ของเศรษฐกิจ-สังคมสูงวัย พร้อมผุดแนวคิดจัดโซนนิ่งการก่อสร้างที่อยู่อาศัย หวังลดงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลั่นไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษี พร้อมชงครม.คงแวต 7% ต่ออีก 1 ปี มั่นใจรัฐบาลปิดหีบงบประมาณปี 64 ได้ คงเป้าจีดีพี 4% ด้าน ธอส.เล็งออกเฟสสอง “บ้านล้านหลัง” ดอกเบี้ยต่ำ 2% นาน 10 ปี เตือนดอกเบี้ยต่ำอาจเป็นระเบิดเวลาต่อผู้กู้
  • “สุพัฒนพงษ์” กางแผนสร้างรายได้ จากท่องเที่ยวกลุ่มมีรายได้สูง นายกฯ สั่งทำแผนเข้า ศบศ.ภายใน 1 เดือน เน้นปรับกฎระเบียบ หวังคล่องตัวดันลงทุน 4 อุตฯ หลักเพิ่ม ตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 4-5% ต่อเนื่องแบบมีเสถียรภาพ “ธปท.” ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่ทั่วถึงห่วงจ้างงานเปราะบาง
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.64 ปรับตัวดีขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายการบริโภคภาคเอกชนทยอยฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับดีขึ้น การส่งออกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของภาครัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และโครงการ ม.33 เรารักกัน โดยเฉพาะโครงการเราชนะมีบทบาทค่อนข้างมากในการใช้จ่ายเพราะเป็นการกระตุ้นโดยตรง ที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายที่ลงสู่ประชาชนค่อนข้างเร็วและมาก ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เมื่อเดือน ก.พ.หดตัวอยู่ที่ 1.08 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 65% ลดลงจากเดือน ม.ค. ซึ่งอยู่ที่ 66% เนื่องจากโควิด-19 อุตสาหกรรมที่ลดลงมาในเดือน ก.พ.คือ การกลั่นน้ำมันหดตัว 18% เพราะผลจากการใช้น้ำมันเครื่องบินอยู่ในระดับต่ำเครื่องนุ่งห่มหดตัว 33% เนื่องจากโควิด-19 ทั่วโลกทำให้กำลังซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลดลงเบียร์ หดตัว 26% เพราะภาครัฐมีมาตรการควบคุมส่งผลให้ช่องทางการจำหน่ายเบียร์ลดลงเพราะโควิด-19 และเชื่อว่าเดือน มี.ค.นี้ เอ็มพีไอและอัตราการใช้กำลังผลิตจะกลับมาดีขึ้น เพราะมี 3 ประเด็นขับเคลื่อน อาทิ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการกระจายวัคซีนของทั่วโลก

หุ้นเด่นวันนี้

  • THANI (ไอร่า) เป้า 5.25 บาท คาดกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังประสบปัญหาโควิด-19 คาดสินเชื่อใหม่ 24,000 ล้านบาท (เฉลี่ย 2,000 ล้านบาท/เดือน) หรือเติบโตตสูงถึง 32% จากปีที่ผ่านมา ตามการฟื้นตัวของตลาดรถบรรทุกใหม่ และคาดปี’64 กำไรสุทธิทำจุดสูงสุดใหม่ คาดอยู่ที่ 2,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%
  • ITEL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 5 บาท (ไม่รวม Dilution จากวอร์แรนท์) แนวโน้มกำไร Q1/64 เร่งตัวขึ้นจากงานบางส่วนที่เลื่อนการส่งมอบจาก Q4/63 มาปีนี้ พร้อมคาดกำไรปกตปี 64 โตแรง +56% Y-Y Backlog ในมืออยู่ที่ 3.8 พันลบ. และมีโอกาสได้งานเพิ่มโดยเฉพาะโครงการต่อยอด USO ส่วน 5G และ WFH เป็นบวกต่อทุกธุรกิจของ ITEL ทั้งการติดตั้งโครงข่าย บริการ Data Services และ Data Center นอกจากนี้ มีแผนตั้งกอง REIT คาดชัดเจนใน H2/64
  • TU (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 18 บาท ได้ Sentiment บวกเงินบาทอ่อนค่า โดย TU มี สัดส่วนรายได้จากการส่งออกมาสุดของอุตสาหกรรม (70% ของรายได้รวม) และ ยังมี Story จากการออกผลิตภัณฑ์ทูน่ากัญชง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (1 เม.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top