BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 31.10-31.50 ต่อดอลล์

จับตารายงานประชุมเฟด-บอนด์ยีลสหรัฐ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 31.27 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 31.15-31.40 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์ เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและเยน

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯสดใสเกินคาด อีกทั้งการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ช่วยสนับสนุนมุมมองของตลาดที่ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดำเนินไปอย่างแข็งแกร่ง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯประเภทอายุ 10 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน กระตุ้นแรงขายเงินเยนสู่จุดอ่อนค่าสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ในเดือนมีนาคมและไตรมาสแรกของปี เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงมากที่สุดในกลุ่มสกุลเงินภูมิภาค ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 3,194 ล้านบาท และ 3,949 ล้านบาท ตามลำดับ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางค่าเงินบาทของสัปดาห์นี้ คือ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มีนาคม ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว หลังประธานาธิบดี โจ ไบเดน เปิดเผยแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมการปรับขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคล โดยทำเนียบขาวระบุว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถหาแหล่งเงินทุนรองรับได้ภายใน 15 ปี

อนึ่ง แม้การขาดดุลแฝดของสหรัฐฯ เป็นประเด็นเชิงโครงสร้างที่มีแนวโน้มย่ำแย่ลงในระยะยาว แต่ปัจจัยเชิงวัฎจักรยังเอื้อให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์ในช่วงแรกของไตรมาสนี้ สะท้อนจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นถึง 916,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตลาดยังคงกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป

สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำโดยส่วนหนึ่งสะท้อนผลของมาตรการลดค่าสาธารณูปโภค อย่างไรก็ดี คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในระยะถัดไปจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำของต้นทุนพลังงาน แต่แรงกดดันจากด้านอุปสงค์ยังอ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ทั่วถึง และต้องพึ่งพาแรงกระตุ้นจากภาครัฐ โดยธปท. ประเมินว่าในช่วงครึ่งหลังของปี การฟื้นตัวจะดีขึ้นต่อเนื่องตามการทยอยเปิดประเทศ ขณะที่ยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใจกลางกรุงเทพฯ ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ยังคงจำกัดการฟื้นตัวของค่าเงินบาทในระยะนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top