ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน เหตุวิตกโควิดระบาดหนัก

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอีกครั้งในภูมิภาคนั้น เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

  • ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,620.11 จุด ลดลง 110.68 จุด หรือ -0.37% และ
  • ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,913.50 จุด เพิ่มขึ้น 238.70 จุด หรือ +0.83%

เกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 700 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 107,598 ราย ส่วนเมื่อวานนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 115,736 ราย ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 12,801,785 ราย และนับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 ราย

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16-17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เฟดอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์

เฟดระบุในรายงานการประชุมเดือนมี.ค. ว่า โครงการซื้อสินทรัพย์ของเฟดซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้วนั้น ได้ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดด้านการเงินอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก กรรมการเฟดมองว่า วงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ควรจะอยู่ในระดับปัจจุบันต่อไป จนกว่าคณะกรรมการเฟดจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งเป้าหมายการสร้างเสถียรภาพด้านราคา

รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฟดมองว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นการสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และสะท้อนถึงการปรับตัวขึ้นของตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 64)

Tags: ,
Back to Top