ตลท.คาดโควิด-19 กระทบ SET ไม่มากจากภาคธุรกิจปรับตัวเร็ว

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. คาดผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยไม่มาก เนื่องด้วยปัจจุบันภาคธุรกิจมีการปรับตัวได้เร็ว เห็นได้จากบางธุรกิจก็มีการฟื้นตัวขึ้นมาได้แล้ว ขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในรอบแรก อย่างกลุ่มท่องเที่ยวก็คงไม่โดนผลกระทบมากขึ้นไปกว่านี้จากที่ได้รับกระทบมานานแล้ว

“อย่ามองว่ามีการติดเชื้อมากขึ้น แล้วภาคเศรษฐกิจจะไม่สามารถปรับตัวได้ หรือแย่ลง บางทีอาจจะไม่ใช่ เพราะผลกระทบดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบน้อยลงแล้ว”นายภากร กล่าว

ส่วนภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันยังมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองในต่างประเทศ, การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวที่รวดเร็วของบริษัทจดทะเบียนในบางอุตสาหกรรม และบางอุตสาหกรรมก็มีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งแตกต่างจากในอดีต โดยการฟื้นตัวของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมก็มีการทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เช่น กลุ่มแพคเกจจิ้ง (Packaging Design) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากขึ้น และเร็วขึ้นจะเป็นผลดีต่อภาคคธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้

นายภากร กล่าวว่า สำหรับการไหลเข้าของเงินทุน (Fund Flow) ในเดือน เม.ย.64 ตลท.ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.จนถึงเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ถือว่ายังอยู่ในระดับที่น้อย ซึ่งมีปัจจัยบวก ได้แก่ ประเทศไทยมีหุ้นพื้นฐานดีอยู่ค่อนข้างมาก รวมถึงมีหุ้นที่ติดอันดับดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และสถานการณ์ต่างๆ ของโลกที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งประเทศไทย สิงคโปร์ ที่เป็นประเทศเปิดก็น่าจะได้ประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

ส่วน Fund Flow จะกลับมาเป็นบวกได้หรือไม่ยังต้องติดตามดูต่อไป ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติก็มีการขายสุทธิลดลงต่อเนื่องทุกไตรมาส ขณะที่ก็มีความผันผวนอยู่บ้างในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 รอบ 2 ช่วงต้นปี แต่ปัจจุบันเริ่มทรงตัวแล้ว โดยแนะติดตามกลุ่มหุ้นที่ยัง Laggard หรือโตไม่เร็วและเริ่มกลับมาฟื้นตัว หากผลกระทบจากโควิด-19 น้อยลง เชื่อว่าจะเป็นตัวหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยและเศรษฐกิจฟื้นตัวได้

ขณะที่ความคืบหน้าการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จากเดิมใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคป เป็นมาร์เก็ตแคปที่ปรับด้วยฟรีโฟลต ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงของการเปิดรับฟังความคิดเห็นกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุน และรวบรวมข้อมูลดังกล่าว คาดว่าจะสามารถสรุปได้ทันภายในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงเรื่องการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณดัชนีฯ ดังกล่าวเท่านั้น แต่ทางตลท.ต้องการจะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และได้มีการดำเนินการในหลายเรื่อง เช่น การควบคุมดูแลไม่ให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในแต่ละวันหรือลดลงเกินกี่เปอร์เซนต์ เป็นต้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top