หุ้นไทยปิดร่วง 23.72 จุด หลุด 1,550 ถล่มขายหุ้นกลางเล็ก-Block Trade ซ้ำ-ลดเสี่ยงโควิด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,548.13 จุด ลดลง 23.72 จุด (-1.51%) มูลค่าการซื้อขาย 143,714.02 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน และในช่วงเผชิญแรงขายอย่างหนักจนดัชนีฯร่วงไปราว 70 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมาทำให้ดัชนีฯลดช่วงลบได้บ้าง โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,561.80 จุด และระดับต่ำสุด 1,501.02 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 354 หลักทรัพย์ ลดลง 1,506 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 244 หลักทรัพย์

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวลง เช่นเดียวกับตลาดยุโรปร่วงไป 2% ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลงไปกว่า 200 จุด แม้แต่ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สก็ร่วงไปกว่า 2%

ทั้งนี้ คาดว่าจะเป็นความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น วิตกธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดทำ QE เร็วกว่าคาด แต่ทั้งนี้นายริชาร์ด แคลริดา รองประธาน เฟด ออกมาระบุว่าตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย.ไม่ได้ทำให้เฟดมีแผนเปลี่ยนแปลงแนวทางการสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโต พร้อมระบุว่าเฟดยังจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน

ส่วนตลาดบ้านเราในการเทรดภาคบ่ายได้เกิด Panic แรงขายออกมาอย่างหนัก จนหลุดแนวรับสำคัญ 1,550 จุด ทำให้มีแรงขายหนักออกมาเพิ่มอีก ส่วนหนึ่งมาจาก Block Trade ที่ทำงานทันทีหลังดัชนีฯร่วงลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติอาจจะตกใจจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่เร่งตัวขึ้น จึงขายลดความเสี่ยงก่อน อีกทั้งการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยของ MSCI ที่ออกมาราว 400-500 ล้านเหรียญฯ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติจะต้องปรับพอร์ตการลงทุนด้วย

ช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศขายสุทธิออกมาแล้วระดับหนึ่ง และวันนี้ก็คาดว่าจะขายออกมาเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่หุ้นที่โดนเทขายหนักวันนี้เป็นหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดเล็ก แต่หุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้น PTT และ KBANK สามารถยืนได้ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนอาจโยกเม็ดเงินไปพักไว้ที่หุ้นขนาดใหญ่ก่อนก็เป็นได้

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) นายกิติชาญ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ในกรอบจำกัด โดยมีแนวรับ 1,520-1,500 จุด ส่วนแนวต้านไว้ที่ 1,550 จุด พร้อมให้ติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และทิศทางตลาดต่างประเทศ รวมถึงการเทรดของบรรดากองทุน

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,435.90 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 2.75 บาท
  • TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 5,998.81 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
  • STA มูลค่าการซื้อขาย 4,382.07 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,250.57 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
  • STGT มูลค่าการซื้อขาย 3,506.38 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top