ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 214.59 จุดทำนิวไฮ รับความหวังศก.ฟื้นตัวแม้โควิดยังระบาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกันวันที่ 2 ในวันอังคาร (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,799.65 จุด เพิ่มขึ้น 214.59 จุด หรือ +0.59%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,793.54 จุด ลดลง 3.02 จุด หรือ -0.06% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,622.72 จุด ลดลง 210.08 จุด หรือ -1.33%

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 3.46% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี S&P500 หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 77 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นออกซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 7.47% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 6% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.75% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.82%

นักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มเรือสำราญ แม้มีรายงานว่าสหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันเดียวมากกว่า 1 ล้านรายในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 1.67% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดีดขึ้น 1.44% หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.76% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 3.25% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดีดขึ้น 5.35% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 1.49% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ บวก 1.92%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.673% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.93% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ บวก 3.07% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 4.06% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 3.79% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 3.98%

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 11.67% หลังจากฟอร์ดประกาศเปิดรับออเดอร์รถกะบะไฟฟ้ารุ่น F-150 Lightning ในสัปดาห์นี้ และประกาศแผนเพิ่มการผลิตรถรุ่นดังกล่าวอีกเกือบสองเท่า สู่ระดับ 150,000 คันต่อปี

อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง และส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดดิ่งลง โดยหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ร่วงลง 3.87% หุ้น NVIDIA ร่วงลง 2.76% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ลดลง 0.59% หุ้นเทสลา ร่วงลง 4.18% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.27%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 58.7 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.1 จากระดับ 61.1 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์และคำสั่งซื้อใหม่

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่ภาวะคอขวดของอุปทานเริ่มบรรเทาลง

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ เวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของวอชิงตันโพสต์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 362,000 ตำแหน่ง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัวเพียง 210,000 ตำแหน่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top