FPT เป้ารายได้ที่อยู่อาศัยปีนี้ 1.3 หมื่นลบ. เปิดโครงการใหม่ 25 แห่ง 2.95 หมื่นลบ.

นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 13% จากโครงการที่เปิดขายแล้ว 62 โครงการ พร้อมกับวางแผนการเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวม 2.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นการเปิดโครงการแนวราบทั้งหมด แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 10 โครงการ นีโอ โฮม บ้านแฝด จำนวน 2 โครงการ บ้านเดี่ยว 10 โครงการ และโครงการต่างจังหวัด 3 โครงการ

โดยโครงการบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนของ City Home โครงการใหม่ใจกลางเมือง คือ โครงการเดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60 (The Grand Vibhavadi 60) พร้อมเพิ่มสินค้าระดับบน Super Luxury คือ แบรนด์ The Royal Residence จากแผนธุรกิจในปี 65 จะเห็นว่าบริษัทได้มีการเพิ่มสัดส่วนของโครงการบ้านเดี่ยวมากขึ้น และขยายเซกเมนต์ City Home ใจกลางเมือง รุกตลาดแนวราบของบริษัทมากขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทยังวางกลยุทธ์ก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน ได้แก่ Land Bank Development ซึ่งบริษัทมีความได้เปรียบในเรื่องการนำที่ดินเดิมที่ซื้อไว้แล้วมาพัฒนา เพื่อลดความเสี่ยงในการที่มูลค่าของที่ดินเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการควบคุมต้นทุน 2. Portfolio Diversification ที่จะมีการกระจายพอร์ตสินค้า เพิ่มแบรนด์ให้หลากหลาย โดยการปรับสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท โดยวางกลยุทธ์ของแต่ละผลิตภัณฑ์

โดยมีบ้านเดี่ยว & City Home ซึ่งพัฒนาแบบบ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น ยกระดับการใช้ชีวิตในสังคมการอยู่อาศัย ทั้งดีไซน์ ฟังก์ชั่น บนทำเลศักยภาพสูง ทั้งแบรนด์ แกรนดิโอ ( GRANDIO) ที่ขยายทั่วมุมเมือง และ City Home อย่างแบรนด์เดอะ แกรนด์ วิภาวดี 60 (THE GRAND Vibhavadi 60) เพิ่มสินค้าระดับบน Super Luxury อย่างแบรนด์ The Royal Residence

ทาวน์โฮม ที่ยังคงรักษาตลาดทาวน์โฮมในการเป็นผู้นำนวัตกรรมทาวน์โฮมที่มีคุณภาพ โดนเด่นด้วยฟังก์ชั่น ที่ครองใจกลุ่มลูกค้า บนทำเลศักยภาพสูง กลุ่มนีโอ โฮม ที่เป็นบ้านแฝดที่เน้นสไตล์หรูหรา เทียบเท่าบ้านเดี่ยว เน้นทำเลใกล้เมือง ด้วยราคาที่จับต้องได้ ตลาดในต่างจังหวัด ซึ่งมีการบุกตลาดใหม่ ในจังหวัดที่มีศักยภาพ และรักษากลุ่มลูกค้าฐานจังหวัดเดิม โดยเปิดโครงการใหม่เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่ใกล้จะหมด ด้วยแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต และคอนโดมิเนียม ที่มีการมองหาซื้อที่ดิน และพัฒนาที่ดินคอนโดมิเนียม ที่เน้นกลุ่ม Real Demand อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก

รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ HOME+ ที่จะชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ เหมือนมีผู้ช่วยเรื่องบ้านที่รู้ใจอยู่ใกล้ตัวตลอด 24 ชั่วโมง HOME+ แอปพลิเคชั่นที่มาสร้างสีสันในการใช้ชีวิตมากขึ้น ฟังก์ชั่นพิเศษสะสมคะแนน เพื่อแลกสิทธิพิเศษ ของรางวัลฟรีๆ และส่วนลดมากมาย เต็มอิ่มไปกับสาระน่ารู้ที่สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน พิเศษอีกระดับสำหรับลูกบ้านกับบริการครบวงจรและสิทธิพิเศษมากมาย สามารถใช้ได้ทั้งลูกบ้านและประชาชนทั่วไป

“ในปัจจุบันยอดขายไม่ได้สำคัญมากนัก เพราะไม่สามารถประมาณการรายได้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ ความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของลูกค้าในการซื้อบ้าน ที่จะทำให้บริษัทก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอดในการพัฒนาบ้านให้เป็นบ้านในฝันของลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่โดดเด่นสวยหรูถูกใจ ทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมฟังก์ชั่นครบคุ้มโดนใจ ที่นับเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า”

นายแสนผิน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 65)

Tags: , , , , , ,
Back to Top