SAAM เปิดแผนปี 65 เน้นทำกำไรธุรกิจไม่เกี่ยวพลังงานหวังดันสัดส่วนใกล้โรงไฟฟ้า

นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดโครงสร้างกำไรในปี 65 จะมาจากธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่าย และธุรกิจให้บริการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเน้นการทำกำไรในธุรกิจลงทุนในกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน จากเดิมในปี 64 ที่มีกำไรหลักจะมาจากธุรกิจจัดหาสถานที่ตั้งและให้บริการที่เกี่ยวข้องภายในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

ทั้งนี้เพื่อให้สัดส่วนกำไรขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันกับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าฯ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ มาเพื่อมุ่งเน้นการทำธุรกิจอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่พลังงานหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว คาดว่าจะเห็นความชัดเจน หรือการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 65 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่าย และให้บริการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนตามความต้องการของลูกค้า จากที่ได้เข้าลงนามในสัญญาให้บริการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศญี่ปุ่นกับลูกค้าเมื่อปีก่อน เนื่องจากการพัฒนาโครงการใช้ระยะเวลามากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เดิม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีความยืดเยื้อ และทางการประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนที่จะเข้านัดพบและประชุมกับหน่วยงานราชการ คู่ค้าท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยทันที คาดว่าจะไม่เกินเดือนมี.ค.นี้ รวมถึงหาลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมีความสนใจในการเข้าดำเนินธุรกิจการปลูกไม้พลังงาน (Plantation) และธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) เพื่อรองรับการเติบโตของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามกระบวนการในการหาพื้นที่ยังต้องใช้ระยะเวลาในการเข้าศึกษาพื้นที่ในประเทศต่างๆ ด้วยข้อจำกัดเรื่องการเดินทางภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ จะพิจารณาเข้าศึกษาโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วย

สำหรับธุรกิจในกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน หรือโซลูชั่นปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินทรัพย์ ด้วยเทคโนโลยีวิเคราะห์และติดตามข้อมูลบิ๊กดาต้า ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ ได้เข้าลงนามในสัญญาอนุญาตให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์และติดตามข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพระบบบริหาร จัดการงานเฉพาะทาง กับบริษัทคู่ค้าซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้เข้านำเสนอข้อมูลต่อกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด กลุ่มบริษัทฯ ได้เข้าลงนามในสัญญากรอบความตกลง (Framework Agreement) กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อให้โรงพยาบาลทดลองใช้ระบบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ไม่มีข้อผูกมัดในการว่าจ้างเพื่อใช้บริการหลังจากโครงการทดลองสิ้นสุดลง

นอกเหนือจากนั้น กลุ่มบริษัทฯ จะพิจารณาเข้าศึกษาโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ราว 2-3 โครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยมุ่งเน้นการเข้าลงทุนในกิจการที่สร้างผลตอบแทนที่ดี และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ หากพบธุรกิจที่มีศักยภาพ จะดำเนินการตามกระบวนการขออนุมัติเข้าลงทุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top