โกลด์แมนแซคส์เชื่อภาคครัวเรือนออสเตรเลียสามารถรับมือภาวะดอกเบี้ยสูงได้

โกลด์แมน แซคส์ เชื่อมั่นว่า ภาคครัวเรือนของออสเตรเลียสามารถรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ได้ เนื่องจากหนี้สุทธิของภาคครัวเรือนลดลงอย่างมากนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลก

แอนดรูว์ โบค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของโกลด์แมน แซคส์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า “เงินทุนกันชนของภาคครัวเรือนออสเตรเลียมีขนาดใหญ่มาก นี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” โดยนายโบคอ้างถึงมาตรการคำนวณหนี้สินสุทธิของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ที่นำหนี้สินภาคครัวเรือนลบกับเงินออมและเงินฝาก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงสู่ระดับ 75% ของรายได้หลังหักภาษี จากระดับกว่า 100% ในช่วงเกิดวิกฤตการเงินปี 2551-2552

นายโบคคาดการณ์ว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับที่เขาเชื่อว่าความสามารถในการบริหารหนี้ของออสเตรเลียจะยังไม่กลายเป็น “ข้อจำกัดที่เข้มงวด”

ความเชื่อมั่นในครัวเรือนของนายโบคนั้นขัดแย้งกับข้อมูลของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงค์กิ้ง ที่เปิดเผยในวันนี้โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้บริโภคที่ตอบแทบสำรวจมองว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่จะซื้อสิ่งของที่มีราคาแพง

RBA ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.35% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป เนื่องจาก RBA จำเป็นต้องควบคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แม้การปรับขึ้นดอกเบี้ยมีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม

RBA กล่าวในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินซึ่งมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว เมื่อพิจารณาภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น ขณะเดียวกัน RBA จำเป็นต้องใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในวันนี้ ส่งผลให้ RBA ปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วทั้งสิ้น 1.25% นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีนี้ และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top