ชาวญี่ปุ่น 35% ตัดสินใจเลิกท่องเที่ยว ผลพวงจากโควิด

ข้อมูลจากบริษัทมอร์นิง คอนซัลต์ (Morning Consult) แสดงให้เห็นว่า ผู้คนเดินทางบ่อยขึ้นและในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โดยจำนวนมากวางแผนใช้จ่ายเงินก้อนโตไปกับการเดินทางในปีนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่วางแผนออกเดินทางท่องเที่ยว

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนกลุ่มหนึ่งปรากฎตัวขึ้นแบบเงียบ ๆ โดยคนเหล่านี้แทบไม่มีความสนใจที่จะออกเดินทางอีกต่อไป

ผลสำรวจผู้ใหญ่ 16,000 คนใน 15 ประเทศในรายงานสภาวะการเดินทางและการบริการ (The State of Travel & Hospitality ) ที่เผยแพร่โดยบริษัทมอร์นิง คอนซัลต์ในเดือนส.ค.พบว่า เอเชียนั้นมีสัดส่วนของผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางอีกต่อไปมากที่สุด โดยมีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 15% และชาวจีนประมาณ 14% ที่ตอบแบบสอบถามครั้งนี้ระบุว่า พวกเขาจะไม่เดินทางอีกแล้ว ส่วนตัวเลขในอเมริกาเหนือไม่ทิ้งห่างกันมากนัก โดยชาวอเมริกันคิดเป็น 14% และชาวเม็กซิโกคิดเป็น 11%

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีอัตราของบุคคลที่ไม่ต้องการเดินทางอีกต่อไปสูงสุดคือญี่ปุ่น โดยอยู่ที่ 35%

นางลินซีย์ รอช นักวิเคราะห์การเดินทางและบริการของมอร์นิง คอนซัลต์ระบุว่า ผลสำรวจดังกล่าวสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และไม่ได้แบ่งแยกระหว่างการเดินทางภายในประเทศหรือต่างประเทศ

ทั้งนี้ นางรอชกล่าวว่า มอร์นิ่ง คอนซัลต์ได้ทำการสำรวจ 2 ครั้งในปีนี้ คือในเดือนเม.ย.และก.ค. โดยผลสำรวจในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่าความเชื่อมั่นด้านการเดินทางของชาวญี่ปุ่นรายอื่น ๆ นั้นเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงบุคคลที่วางแผนเดินทางในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% และ 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 4%

แต่ในผลสำรวจทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว ตัวเลขชาวญี่ปุ่นที่จะไม่เดินทางอีกต่อไป อยู่ที่ระดับสูงถึง 35%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top