เงินบาทเปิด 33.62 อ่อนค่า หลังตัวเลขศก.สหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า-จับตาเงินไหลออก

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.62 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.99 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ สหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ดีเกินคาดกว่า 5 แสนตำแหน่งจากที่ตลาดคาดไว้ 1.9 แสนตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย พันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น และตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่หยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์กว่า 60 สตางค์ หลังตัวเลข non-farm Payroll ออกมาดีเกินคาด หนุนให้ดอลลาร์กลับ มาแข็งค่าอย่างรวดเร็ว วันนี้ตลาดน่าจะย่อยข่าวต่อส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.45 – 33.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะเดียวกันต้องจับ ตาดูทิศทางการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศที่จะกดดันให้บาทอ่อนค่าขึ้นอีก ส่วนการแถลงตัวเลขเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์นั้นคาดว่า จะชะลอตัวลงตามทิศทางของราคาพลังงาน

THAI BAHT FIX 3M (3 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.23266% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.45882%

* ปัจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 132.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 128.56 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0782 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0926 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.004 บาท/ดอลลาร์

– สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เตรียมประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือน ม. ค.66 ซึ่งคาดว่าจะชะลอตัวลงต่อเนื่องจากแนวโน้มราคาพลังงานที่ประบตัวลดลง

– รัฐบาลตีปี๊บ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ชวนผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พักรายใหม่ลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ 8- 15 กุมภาพันธ์ กำหนดเวลาใช้สิทธิของประชาชนทั่วไปเริ่มจองโรงแรมได้ 8 มีนาคม-27 เมษายน ทั้งหมด 5.6 แสนสิทธิ คาดสร้างเม็ด เงินหมุนเวียนเศรษฐกิจ 12,539 ล้านบาท

– “นายกฯ” ปลื้มท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวร้อยละ 45 “กาตาร์ แอร์เวย์ส” เตรียมเพิ่มเที่ยวบินตรงเดือน ก.พ. ชี้แนวโน้มตลาด ท่องเที่ยวแนวโน้มเชิงบวก “อนุทิน” กำชับ 3 หน่วยงาน “สธ.-คมนาคม-ท่องเที่ยว” อำนวยความสะดวกทัวร์จีน 6 ก.พ.นี้

– สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐมีแนวโน้มบานปลาย หลังจากกองทัพสหรัฐได้ตัดสินใจยิงบอลลูนสอดแนมของจีนตก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 ก.พ.) หลังพบว่าบอลลูนดังกล่าวลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของสหรัฐหลายวันแล้ว

– นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งจัด โดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตรา ดอกเบี้ยของเฟด

– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง ในการประชุมเดือนมี.ค. และเดือนพ.ค. สู่ระดับสูงสุดที่ 5.00-5.25% ก่อนที่เฟดจะคง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ ระดับ 3.6%

– ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนก. พ. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 66)
Tags: ,
Back to Top