หุ้น “เฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์” พุ่งกว่า 30% ก่อนเปิดตลาด นลท.คลายกังวลวิกฤตแบงก์

ราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB พุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของ FRB ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ

ณ เวลา 18.21 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้น FRC พุ่งขึ้น 33.03% สู่ระดับ 41.52 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ธนาคารระดับภูมิภาคอื่นๆ ดีดตัวขึ้นก่อนเปิดตลาดเช่นกัน โดย PacWest ทะยานเกือบ 30%, KeyCorp ดีดตัวขึ้น 15% ส่วน Zions Bancorp บวก 10%

ทั้งนี้ FRB ส่งจดหมายถึงลูกค้า ยืนยันว่าธนาคารยังคงมีเงินทุนที่แข็งแกร่ง และสูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดไว้

“เราพร้อมที่จะดำเนินธุรกรรม และตอบคำถาม รวมทั้งรองรับความต้องการทางการเงินทั้งหมดของท่าน เช่นเดียวกับที่เราได้ดำเนินการอยู่ทุกวัน” นายจิม เฮอร์เบิร์ต ประธานกรรมการ FRB และนายไมค์ รอฟเฟลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FRB ระบุในจดหมายดังกล่าว

FRB เน้นให้บริการลูกค้าในระดับสูงและภาคธุรกิจ ขณะที่มีเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยต่ำกว่าระดับเฉลี่ยเมื่อเทียบสัดส่วนสินทรัพย์ทั้งหมด

นอกจากนี้ FRB เปิดเผยว่า ธนาคารมีเงินฝากทั้งหมดจำนวน 1.76 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2565

หุ้น FRB ดิ่งลงกว่า 70% วานนี้ โดยถูกกดดันจากการที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) หรือ SB

นักลงทุนกังวลว่าการล่มสลายของ SVB และ SB จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคาร และลุกลามไปยังธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐ เช่น FRB แม้ว่า FRB มีการดำเนินนโยบายแตกต่างจาก SVB ซึ่งเป็นธนาคารที่เน้นการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ SB เป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี

กระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับ SVB และ SB จะสามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” เพื่อปกป้องสถาบันการเงินอื่นๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB และ SB

รายงานระบุว่า FRB สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้กว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากเฟดประกาศโครงการ Bank Term Funding Program ซึ่งเป็นโครงการที่เฟดเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์ สถาบันรับฝากเงิน เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินอื่นๆ โดยสถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับเงินกู้จากโครงการดังกล่าว จะต้องยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top