หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รอลุ้น PCE สหรัฐ ราคาน้ำมันพุ่งหนุนกลุ่มพลังงาน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ ยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ เพราะรอติดตามตัวเลข PCE สหรัฐเดือนก.พ. 66 ในคืนนี้ แต่มีแรงส่งในกลุ่มหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันเพิ่ม ช่วยหนุนดัชนี และ Sentiment ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดมาบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ ให้แนวต้าน 1,610-1,620 จุด แนวรับ 1,590-1,600 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ ซึ่งตลาดยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และยังรอติดตามรายงานตัวเลข PCE ของสหรัฐเดือนก.พ. 66 ในคืนนี้ เพื่อคาดการณ์ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

อย่างไรก็ตาม มองว่าจะมีปัจจัยหนุนเข้ามาในกลุ่มหุ้นพลังงานที่ช่วยหนุนดัชนีได้ หลังสต็อกน้ำมันของสหรัฐลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี เป็นผลบวกต่อราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง Sentiment หุ้นตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่เพิ่มขึ้น

โดยให้แนวต้าน 1,610-1,620 จุด แนวรับ 1,590-1,600 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 มี.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,859.03 จุด เพิ่มขึ้น 141.43 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,050.83 จุด เพิ่มขึ้น 23.02 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,013.47 จุด เพิ่มขึ้น 87.24 จุด หรือ +0.73%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,009.22 จุด เพิ่มขึ้น 226.29 จุด หรือ +0.81%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,583.88 จุด เพิ่มขึ้น 274.75 จุด หรือ +1.35% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,263.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.16 จุด หรือ +0.07%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 มี.ค.66) 1,605.42 จุด ลดลง 5.10 จุด (-0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 50,910.02 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,908.76 ลบ.เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(30 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.92% ปิดที่ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 มี.ค.) อยู่ที่ 7.71 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.15 แข็งค่าจากวานนี้ ให้กรอบวันนี้ 33.90-34.25 ตลาดรอปัจจัยใหม่

– “พาณิชย์” โอดส่งออก ก.พ. ติดลบ 4.7% ทรุดต่อเนื่อง 5 เดือนติด คาดดิ่งยาวถึงไตรมาส 2 ลุ้นฟื้นตัวครึ่งปีหลัง แต่ทั้งปียังมั่นใจโตตามเป้า 1-2% ด้าน “คลัง” ฟุ้งท่องเที่ยวยังแจ่ม เศรษฐกิจสดใส หนุนดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สูงสุดในรอบ 6 เดือน

– “ศาล ปค.สูงสุด” พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องคดี “บีทีเอส” ฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ-รฟม. ยกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชี้กระทำโดยสุจริต ชอบด้วย กม.-ไม่เลือกปฏิบัติ

– “เวิลด์แบงก์” ชี้ กติกาโลก บีบธุรกิจและสังคม มุ่งหน้าสู่ความยั่งยืน เปิดกลไกการเงินแบบรูปแบบใหม่รับเงื่อนไขความเสี่ยงผู้กู้เสริมกำลัง รายย่อยเข้าถึงแหล่งทุนหนุนแผนพัฒนา ธุรกิจพัฒนาโลก ด้านยูเอ็นโกบอลคอมแพค เปิด 5 ความท้าทายสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

– “ศาล ปค.สูงสุด” นัดตัดสิน 4 คดีแบ่งเขตเลือกตั้ง 7 เม.ย. เชื่อไม่กระทบวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. พปชร.เปิดผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต 92 ปาร์ตี้ลิสต์ ชูนโยบาย ” 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด” ด้าน “บิ๊กตู่”เผย รทสช.จัดปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้ว แย้มคิวลงพื้นที่หาเสียง แต่ไม่แจ้งสื่อ หวั่นไม่ปลอดภัย

 

หุ้นเด่นวันนี้

– บมจ. เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อ “DEXON” ในวันที่ 31 มีนาคม 2566 ด้วยราคา IPO หุ้นละ 4.50 บาท DEXON เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมและสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า กลุ่มพลังงานหมุนเวียน และที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน

– BA (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางกำไรปี 2023 โดยคาดเริ่มได้ผลบวกจากการลดจำนวนเครื่องบินลงจาก 35 ลำเหลือ 26-28 ลำ ซึ่งคาดจะช่วยหนุนให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารและ RASK คาดฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาคการท่องเที่ยว ระยะสั้นคาดหวังการเร่งตัวของกำไรในไตรมาส 1/66 หลังสมุยกลับเข้า High Season อีกครั้ง เราคาดกำไรปี 2566 ของ BA ที่918 ลบ.พลิกจากขาดทุนปีก่อน นอกจากนี้ BA ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจเกี่ยวเนื่องและเงินลงทุนต่างๆ ทั้งธุรกิจ Cargo เงินปันผลรับจาก BDMS รวมถึงการเปลี่ยนจาก SPF เป็น BAREIT ที่ทำให้ต้นทุนคงที่ลดลง

– TOA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 39.50 บาท บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 66 ที่ 15%YoY ทั้งจากยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม decorative และ non-decorative ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและอสังหาฯ มองกำไรขั้นต้นดีขึ้น หลังราคาวัตถุดิบหลักที่อิงกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง รวมถึงสาร TiO2 มีการปรับสูตรนำเข้าจากจีนบางส่วนแทนสหรัฐฯ ซึ่งมีราคาถูกกว่า โดยจะทยอยเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาที่ราว 20% ใน 1Q66 ประกอบกับกลยุทธ์การกระจายตัวของพอร์ตสินค้าให้มีความหลากหลาย รวมถึงการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าจะทำให้เห็นกำไร 1Q66 เติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66 ที่ 2.2 พันล้านบาท +55%YoY




โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top