CryptoShot: หมดยุครวยร้อยล้านกับการเสี่ยงโชค พบกับเศรษฐีใหม่”พลังกบ”

กระแสเหรียญมีม (Meme Coin) กลับมาอีกครั้ง ด้วยเหรียญน้องใหม่อย่าง PEPE Coin ที่มีการลิสต์ขึ้น Exchange ใหญ่ถ้วนหน้า งานนี้เหรียญมีมตระกูลน้องหมาอย่าง SHIBA หรือ DOGE Coin น้อยใจแย่

*หมดยุครวยร้อยล้านกับการเสี่ยงโชค พบกับเศรษฐีใหม่”พลังกบ”

ช่วงนี้กระแสเหรียญมีมกลับมาอีกครั้ง แล้วเหรียญตัว TOP ที่ช่วงนี้ราคามาแรงมาก ก็คือเหรียญมีม PEPE ที่เป็นรูปกบตัวเขียวนั่นเอง ล่าสุดข้อมูล Onchain พบว่ามีนักลงทุนที่ทำกำไรได้จากเหรียญมีม PEPE กว่า 1 ล้านดอลลาร์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยมีนักเทรดคนหนึ่งที่ซื้อเหรียญมีม PEPE ไป 5.9 ล้านล้านเหรียญ ด้วยเงิน 0.125 ETH คิดมูลค่าตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 251 ดอลลาร์ แล้วก็ได้ขายเหรียญไป 2 ล้านล้านเหรียญ ที่ 560 ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.06 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาแค่ 2 สัปดาห์ กลายเป็นเศรษฐีคนใหม่เลย

เหรียญ PEPE Coin ได้ลิสต์บนกระดานเทรดชื่อดัง อย่าง Houbi, Gate.io, MEXC แล้วก็ OKX นี่ก็อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เหรียญ PEPE ได้รับความนิยมอย่างมากด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น เหรียญมีม ก็ยังเป็นเหรียญมีมอยู่วันยังค่ำ นักลงทุนที่กำลังจะเข้า ต้องรับความเสี่ยงกันให้ได้

*รวยด้วย Twitter แค่เพียงจับตา Tweet ของ Elon Musk ไว้ ก็ทำกำไรได้ในพริบตา

ไหน ๆ เราพูดถึงเหรียญมีมกันแล้ว ไม่พูดถึงเจ้าพ่อเหรียญมีมอย่าง Elon Musk ก็คงไม่ได้

ล่าสุดที่ Elon Musk อยู่ดี ๆ ก็โพสต์ด้วยคำสั้น ๆ ว่า Cult หรือที่ย่อสั้น ๆ มาจาก Culture ทันใดนั้นก็มีคนไปโยงว่า เป็นการบอกใบ้เกี่ยวกับเหรียญ CULT ส่งผลให้ราคาเหรียญพุ่งขึ้นกว่า 66% ในเวลาไม่ถึง 24 ชม.

แต่งานนี้ Elon Musk เองก็ไม่ได้ออกมาอธิบายอะไร แล้วก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า Tweet นี้เกี่ยวข้องอะไรกับเหรียญ CULT DAO แต่อย่างใด

ช่วงนี้มีเหรียญหลายเหรียญที่อยู่ดี ๆ ราคาก็พุ่งแบบไม่มีเหตุผล นักลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการลงทุน

*MicroStrategy เปิดงบ Q1 กำไร 94 ล้านดอลลาร์ ถือบิตคอยน์อยู่ 140,000 BTC

ฤดูกาลแจ้งงบของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกมาถึงแล้ว ทาง MicroStrategy ก็เช่นกัน โดยล่าสุดงบไตรมาส 1 ปี 2566 นี้ก็พลิกมาเป็นกำไร 94 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขน่าพอใจเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ทาง CEO Phong Lee ก็มี Statement ว่ายังคงมั่นใจในกลยุทธ์การลงทุนใน Bitcoin อยู่ เนื่องจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเองก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเสริมว่า “เขายังคงมีระเบียบวินัยในแง่ของต้นทุน และเขาก็จะดำเนินการตามกลยุทธ์แบบ 2 way ต่อไป ในการขยายธุรกิจซอฟต์แวร์ข่าวกรอง และการซื้อ Bitcoin สำหรับอนาคต”

ฝั่ง Michael Saylor ก็ออกมาพูดถึงบิตคอยน์เหมือนเดิม ว่า “เขายังไม่เห็นว่า มันจะมีกลยุทธ์ใดที่ดีกว่านี้ และเมื่อคุณดูจากกราฟนี้ การซื้อและถือ Bitcoin อย่างรอบคอบ ก็เป็นวิธีที่ดีเพื่อเอาชนะตลาด”

และหากเราดูจากงบ จะเห็นว่าสิ้นสุดไตรมาส 1 ปีนี้ MicroStrategy ถือครองบิตคอยน์ทั้งหมด 140,000 บิทคอยน์ โดยมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 29,803 ดอลลาร์ ต่อ 1 บิตคอยน์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top