หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามตปท. บอนด์ยีลด์พุ่งหลังรายงานเฟดย้ำขึ้นดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ตามตลาดต่างประเทศ หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่ยังคงให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครึ่งปีหลังนี้ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์พุ่งขึ้น กดดันตลาดหุ้นปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ด้านปัจจัยในประเทศรอติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ให้แนวรับไว้ที่ 1,490-1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 13-14 มิ.ย.เมื่อคืนนี้ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่ ยังคงให้มุมมองว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.941% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.945% และกดดันต่อตลาดหุ้นในต่างประเทศให้ปรับตัวลง

ส่วนปัจจัยในประเทศ นักลงทุนน่าจะไปรอดูการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า (13 ก.ค.66)

ให้แนวรับไว้ที่ 1,490-1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,288.64 จุด ลดลง 129.83 จุด หรือ -0.38%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,446.82 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,791.65 จุด ลดลง 25.12 จุด หรือ -0.18%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,840.41 จุด ลดลง 269.97 จุด หรือ -1.41% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,215.86 จุด ลดลง 7.09 จุด หรือ -0.22% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,058.40 จุด ลดลง 280.30 จุด หรือ -0.84%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ค..66) 1,508.87 จุด ลดลง 6.44 จุด (-0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 38,565.40 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,187.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.(5 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 2.87% ปิดที่ 71.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ค.อยู่ที่ 4.83 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.03 กลับมาอ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งค่าจากรายงานเฟดยังหนุนขึ้นดอกเบี้ยต่อ

– “วันมูหะมัดนอร์” เคาะวันโหวตเลือกนายกฯ 13 ก.ค. พลิ้วตอบหาก “พิธา” ไม่ผ่านนัดแรกจะประชุมรัฐสภาอีกกี่ครั้ง อ้าง รธน.ไม่ได้กำหนดเสนอชื่อได้กี่ครั้ง บอกจะโหวตจนกว่าจะได้ ชี้ประเทศต้องมีนายกฯ บริหาร “ประชาชาติ” เฮ! “ชัยธวัช” บอกเก้าอี้ “ประธานสภาฯ” ไม่กระทบโควตารัฐมนตรี “ภูมิธรรม” ย้ำสูตรแบ่งเก้าอี้ยึด 14+1 ตามเดิม ปัดตอบมีแผนอื่นหรือไม่หาก “แคนดิเดตนายกฯ ก้าวไกล” ฝ่าด่าน ส.ว.ไม่ได้ “บิ๊กตู่” เล่นบทเตมีย์ใบ้ไม่ตอบเรื่องการเมือง “ชัยวุฒิ” เผยเตรียมตั้งวิปขั้ว รบ.เดิมหารือแนวทางโหวตนายกฯ “เสรี” ไม่เชื่อ ส.ว.ขายตัวแลกโหวต “พิธา”

– เงินเฟ้อ มิ.ย.66 เพิ่ม 0.23% ชะลอตัวต่อเนื่องเดือนที่ 6 ต่ำสุดรอบ 22 เดือน หลังสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ อาหาร น้ำมันปรับลดลง พาณิชย์ปรับคาดการณ์ทั้งปีใหม่เหลือ 1-2% กกร.คงเป้าจีดีพีโต 3-3.5% ท่องเที่ยวเครื่องยนต์สำคัญดันเศรษฐกิจ ห่วง ศก.โลกชะลอ ฉุดเป้าส่งออกติดลบ 2-0%

– สายสีเขียวไม่จบ ครม.โยนเผือกร้อนรัฐบาลใหม่สางหนี้ 7.8 หมื่นล้านบาท หลังมหาดไทยมีความเห็นติด พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ ครม.ไม่สามารถพิจารณางบฯ ได้ แนะ กทม.กลับไปทำประมาณการสถานะการเงินถึงปี 72 เพื่อทำแผนชำระหนี้รายปีที่เหมาะสมก่อนเสนอครั้งต่อไป ด้านผู้บริหารบีทีเอสมั่นใจแก้ปัญหาได้ และจะได้รับการชำระหนี้จากภาครัฐ

– กกร.ปรับเป้าส่งออกติดลบ 2-0% ประเมินเศรษฐกิจโลกครึ่งหลังชะลอตัวชัดเจน ดอกเบี้ยขาขึ้น หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ด้านสมาคมเล็งหาทางแก้ พร้อมเร่งจัดการระบบโอนเงินล่มซ้ำซาก

– นายกสมาคมอสังหา ฟันธงภาพรวมกลุ่มครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง หนุนจากโครงการแนวราบระดับกลาง-บน ย้ำแรงซื้อต่างชาติทยอยฟื้นตัว ล่าสุดเศรษฐีเมียนมา อินเดีย แห่ซื้อแซงหน้าจีน คาดกำลังซื้อจีนกลาง-ล่างกลับเข้ามาเติมโครงการแนวสูง 100% ราวปี 2568

 

หุ้นเด่นวันนี้

– บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในจังหวัดปทุมธานีที่มีจุดเด่นด้านการให้บริการรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจและโรคซับซ้อนสำหรับแม่และเด็ก พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 6 ก.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,300 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “PHG” โดยราคา IPO ที่ 21.00 บาท

– PTTEP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 160 บาท ราคาน้ำมัน Brent ปรับตัวขึ้นแรงช่วงข้ามคืน หลังตลาดเริ่มย่อยและตอบสนองกับข่าวซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศลดการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมสำหรับเดือน ส.ค. อีกทั้งราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวต่อในช่วงครึ่งปีหลังจากกำลังการผลิตน้ำมันที่ปรับลดในช่วง 1H23 และการฟื้นตัวของจีนในครึ่งปีหลัง

– AMATA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท ภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี66 นี้ยังมีแรงหนุนจากการกลับมาเจรจากับลูกค้าต่างชาติได้อีกครั้งหลังการระบาดของ Covid-19 การตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย ซึ่งทาง AMATA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 66 ไว้ที่ 2,250 ไร่(+125%YoY) คาดยอดขายปี 66 จะมาจาก 1500 ไร่ ในไทย และ 750 ไร่ในเวียดนาม ส่วนยอดโอนที่ดินปีนี้บ.ตั้งเป้ามีจำนวน 50% ของ backlog จากสิ้นปี 65 ที่ 6,685 ลบ. โดยเบื้องต้น เราคาดว่าในส่วนของกำไร 2Q66 นี้จะปรับตัวได้ดีขึ้น YoY ทั้งจากยอดโอนและรายได้จากสาธารณูปโภค ปัจจุบัน เราประเมินกำไรปกติปี66 ที่ 2,031 ลบ. (+107%YoY)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top