หุ้นไทยปิดร่วง 18.41 จุด รับ sentiment ตปท.-แรงขายบิ๊กแคปกดดัน

SET ปิดวันนี้ที่ 1,490.46 จุด ลดลง 18.41 จุด (-1.22%) มูลค่าซื้อขาย 45,718.25 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ รับความกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ส่งผล Bond yield ปรับตัวขึ้น กดดันตลาดหุ้น และยังมีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปออกมากดดันดัชนี ทำให้ดัชนีย่อตัวลง แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์ พร้อมให้แนวต้าน 1,505 จุด แนวรับ 1,475 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,490.46 จุด ลดลง 18.41 จุด (-1.22%) มูลค่าซื้อขาย 45,718.25 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,486.49 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,505.88 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 105 หลักทรัพย์ ลดลง 394 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 139 หลักทรัพย์

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จากปัจจัยกดดันของความกังวลในการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ตลาดเกิดความกังวล และเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัรรัฐบาลสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น (Bond yield) ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้น

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้ามากดดันดัชนี และทำให้ดัชนีย่อตัวลงมาหลุด 1,500 จุด แม้ว่าปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม หลังจากผ่านการโหวตประธานสภาฯและการายงานตัวเลขเงินเฟ้อไปแล้ว

แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ โดยในคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่บ่งชี้เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยให้แนวต้าน 1,505 จุด แนวรับ 1,475 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,142.49 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,940.27 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,659.79 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

PHG มูลค่าการซื้อขาย 1,606.11 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท ลดลง 4.70 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,389.19 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top