ดาวโจนส์ปิดลบ 180.65 จุด กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งส่งผลให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,765.74 จุด ลดลง 180.65 จุด หรือ -0.52%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,404.33 จุด ลดลง 33.53 จุด หรือ -0.76% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,474.63 จุด ลดลง 156.42 จุด หรือ -1.15%

เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ค.เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปนั้นอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยง ในขณะที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่าแม้เงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

รายงานการประชุมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย. แต่อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ขู่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลายแห่งในสหรัฐ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร (S&P 500 bank index) ร่วงลง 1% นำโดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.2% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 0.42% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.93%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1%

หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐปิดตลาดร่วงลง 1% หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ภายหลังจากบริษัทโบรกเกอร์ 2 แห่งได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นอินวิเดีย ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์หน้า

หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2/2566 ที่ระดับ 1.80 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.39 ดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.9% สู่ระดับ 1.452 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.448 ล้านยูนิต

ส่วนในวันนี้ สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference Board

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top