หุ้นไทยปิดเช้าร่วง 15.88 จุด รับแรงกดดันจากตัวเลข PMI จีนต่ำคาด-BOJ คงนโยบาย Yield Curve Control

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,379.97 จุด ลดลง 15.88 จุด (-1.14%) มูลค่าซื้อขายราว 20,561 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาร่วงลงแรงกว่าตลาดภูมิภาคเอเชีย รับแรงกดดันจาก PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของจีน เดือนต.ค.ออกมาต่ำกว่าคาดทั้งคู่ รวมถึงมติธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างที่ตลาดคาดหวังว่าจะมีการปรับ Yield Curve Control ทำให้กดดันต่อค่าเงินเยนอ่อนตัวเล็กน้อย และกดดันหุ้น Big cap ของไทย ช่วงบ่ายคาดตลาดยังอยู่ในแดนลบต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,379.97 จุด ลดลง 15.88 จุด (-1.14%) มูลค่าซื้อขายราว 20,561 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นเช้าวันนี้ ดัชนีร่วงแรงกว่าภูมิภาค ทำจุดต่ำสุด 1,374.66 จุด และสูงสุด 1,395.79 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จนหลุดแนวรับ 1,380 จุด อีกครั้ง รับแรงกดดันจากดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคบริการเดือนต.ค.ของจีนออกมาต่ำทั้งคู่ โดยภาคการผลิตปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 จากระดับ 50.2 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจอยู่ที่ 50.2 โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50.6 จากระดับ 51.7 ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ได้มีมติเปลี่ยนแปลง โดยยังคงมาตรการ Yield Curve Control สำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปี กำหนดกรอบบนที่ 1% และคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ตามคาด ส่งผลกดดันให้ค่าเงินเยนร่วงลงสู่ระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์

จากปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลกดดันต่อหุ้นขนาดใหญ่ (Big cap) ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะอย่าง TRUE ก็เข้ามากดดันตลาดเพิ่ม

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ หลังหลุดแนวรับ 1,380 จุด ลงมาทำให้ภาพดูไม่สวย ให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,124.66 ล้านบาท ปิดที่ 164.50 บาท ลดลง 4.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 871.00 ล้านบาท ปิดที่ 221.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 830.33 ล้านบาท ปิดที่ 98.25 บาท ลดลง 0.75 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 773.77 ล้านบาท ปิดที่ 5.95 บาท ลดลง 0.60 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 618.85 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top