หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์กรอบจำกัด ราคาน้ำมันถ่วงกลุ่มพลังงาน-คาบเกี่ยววันหยุด

นักวิเคราะห์ฯระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีประคองตัวออกด้านข้างกรอบจำกัด ราคาน้ำมันปรับลงอาจถ่วงราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้งสัปดาห์นี้คาบเกี่ยววันหยุด นักลงทุนชะลอการลงทุนรอติดตามทิศทางตลาด นอกจากนี้ยังรอรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐและเงินเฟ้อของไทยในสัปดาห์นี้ ให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,370-1,375 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด หากผ่านไปได้แนวต้านถัดไปที่ 1,405 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล,CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีเช้านี้ประคองตัวออกด้านข้างในกรอบจำกัด โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอาจถ่วงราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้ง SET Index ในสัปดาห์นี้คาบเกี่ยววันหยุดอาจทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามความชัดเจนของทิศทางตลาดเนื่องจากช่วงนี้ Volume ค่อนข้างเบาบาง

นอกจากนี้นักลงทุนรอติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐช่วงปลายสัปดาห์นี้ และการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันที่ 7 ธ.ค. ส่งผลให้ดัชนีคาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์กรอบแคบ โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,370 และ 1,375 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด หากผ่านไปได้แนวต้านถัดไปที่ 1,405 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,245.50 จุด เพิ่มขึ้น 294.61 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,594.63 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด หรือ +0.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,305.03 จุด เพิ่มขึ้น 78.81 จุด หรือ +0.55%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,318.07 จุด ลดลง 113.44 จุด หรือ -0.34% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,919.08 จุด เพิ่มขึ้น 88.78 จุด หรือ +0.52% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,033.30 จุด เพิ่มขึ้น 1.66 จุด หรือ +0.05%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ธ.ค.66) ที่ 1,380.31 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด (+0.01%) มูลค่าซื้อขาย 37,615.16 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (1 ธ.ค.66) ที่ 236.39 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลงมากกว่า 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ธ.ค.66) อยู่ที่ 6.48 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.81 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค รับดอลลาร์อ่อนค่า จับตาทิศทาง Flow
  • “รัฐบาล” จับตาสถานการณ์ หนี้ภาคธุรกิจ หลังหุ้นกู้ครบกำหนดชำระปี 67 เฉียด 1 ล้านล้าน ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจ ไม่สดใส ส่อกระทบโรลโอเวอร์หุ้นกู้ปีหน้า นายกฯ สั่งรับมือ ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ รายที่เสี่ยงผิดชำระหนี้ สศช.ชี้ระดมทุนผ่าน ตราสารหนี้ มีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น “หอการค้า” เสนอรัฐบาลเร่งแก้ไขหนี้ภาคธุรกิจ แนะรัฐจัด กลุ่มลูกหนี้ ออกมาตรการจัดการหนี้ ช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเดินได้
  • นักเศรษฐศาสตร์ มองเศรษฐกิจไทยโตช้า อาการน่าห่วง “ศุภวุฒิ” ย้ำไทยกำลังเผชิญวิกฤติโตต่ำ ห่วงเจอวิกฤติงบดุลซ้ำเติม หลังหนี้รัฐเอกชน-ครัวเรือนพุ่งทั่วหน้า ถาม ธปท. เก็บกระสุนไว้ทำไม ด้าน “บัณฑิต” ชี้ขีดความสามารถต่ำลงเรื่อยๆ ติงแบงก์ชาติพูดแต่เรื่องดี ไร้สัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่ต้องเผชิญระยะข้างหน้า
  • ส.อ.ท. แนะรัฐอัดมาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมระหว่างรองบประมาณหวังเป็นแรงส่งขับเคลื่อน ศก.ปี 67 ที่ยังเผชิญความเปราะบางจากทั้งปัจจัยภายในที่หนี้ครัวเรือนสูง ค่าพลังงานต่างๆ ที่ยังคงมีทิศทางขาขึ้นจากหนี้สะสม ขณะที่ปัจจัยภายนอก ศก.โลกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ขัดแย้งสูง
  • ธุรกิจช็อกค่าไฟงวดใหม่ แพงกระฉูดยูนิตละ 4.68 บาท นายกฯ “ยอมไม่ได้” เรียกบอร์ดพลังงานประชุมด่วน ก.พลังงาน ประสานเสียง กดราคาเหลือ 4.20 บาท/หน่วย 3 สมาคมเอกชนนัดถกด่วน 6 ธ.ค.นี้ ชี้ราคาแพงกว่าเวียดนาม-อินโดนีเซีย โรงแรมโอดแบกต้นทุนเพิ่ม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AAI (ดาโอ) แนะนำ “ซื้อ” เป้าเชิงกลยุทธ์ 4 บาท ตัวเลขส่งออกอาหารสุนัข-แมว ต.ค.โต 5.5% (เดือนก่อน – 7.9%) ส่งสัญญาณไตรมาส 4/66 และปี 67 ฟื้นตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ AAI ยังมี catalyst จากการขยายลูกค้ารายใหม่ในสหรัฐฯ 2 รายในช่วงต้นปี 67 มองบวกส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงกลับมาโต YoY ในรอบ 1 ปี จาก inventory destocking ทยอยคลี่คลาย ขณะที่ส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปและส่งออกไก่ยังใกล้เคียงคาด กำไรปกติไตรมาส 3/66 (ไม่รวม Fx) ที่ 130 ล้านบาท (-51% YoY, +22% QoQ) กำไรปกติชะลอ YoY จากฐานสูงปีก่อน แต่ดีขึ้น QoQ
  • CPN (คิงส์ฟอร์ด) แนะนำ “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 81.50 บาท กำไร Q3/66 ที่ 4.1 พันล้านบาท โต QoQ, YoY ปัจจัยหนุนจากศูนย์การค้าแม้เป็น Low season แต่ Traffic ยังดี ทำให้รายได้เช่าบริการขยับขึ้น ด้านธุรกิจอสังหาฯ รายได้โตจากโอนแนวราบ-คอนโดฯใหม่ ส่วนธุรกิจโรงแรมโตจากเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่ง GPM ดีขึ้นจากคุมค่าใช้จ่ายและประหยัดต่อขนาด แนวโน้ม Q4/66 ยังสดใส YoY เข้าเทศกาลปลายปี-High Season ท่องเที่ยว (QoQ อาจอ่อนตัวบ้างจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นปกติ) รวมถึงเปิด Central Westville ราชพฤกษ์ พื้นที่เช่า 3.2 หมื่นตร.ม.และโรงแรม Centara อยุธยา อิง Consensus ตลาดคาดกำไรปี 66 ตลาดคาดกำไรอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท +32%YoY และปี 67 อยู่ที่ 1.53 หมื่นล้านบาท +9%YoY
  • AOT (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 76 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 15% ในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเรามองว่าสะท้อนความกังวลนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าไทยน้อยกว่าคาด รวมถึงการขยายเวลาช่วยเหลือผู้ประกอบการไปค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่สัญญาณ RSI อยู่ในเขต Oversold ระยะสั้นจึงมองมีโอกาสฟื้นตัว
  • ล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ทำ New High ในปีนี้ต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติดต่อกันที่ 9 หมื่นคนต่อวัน และคาดเร่ง ตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือน ธ.ค.66 – ม.ค. 67 จาก Peak Season เราคาดกำไรปี 2023-24 ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท +128% y-y และ 2.9 หมื่นลบ. +38% y-y

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top