หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นฟื้นตัวตามดาวน์โจนส์ จับตา GDP-PCE สหรัฐวัดทิศทางดอกเบี้ย

 

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นฟื้นตัว โดยได้ Sentiment บวกกับตลาดสหรัฐซึ่งปรับตัวขึ้นไปกว่า 1% จากการคาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปีข้างหน้าของ University of Michigan (UoM) ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.9% ลดลงจากเดือนก่อนที่คาดการณ์เงินเฟ้อที่ระดับ 3.1% รวมทั้งมีมุมมองเชิงบวกกับเศรษฐกิจสหรัฐ สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับขึ้นมาสู่ระดับ 78.8 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เป็นสัญญาณที่ค่อนข้างดี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นและน่าจะช่วหนุนบรรยากาศการลงทุนในภูมิภาคได้

ขณะที่ปัจจัยในประเทศการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ใกล้เสร็จสิ้น ซึ่งภาพรวมผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าคาดบ้าง แต่ระยะถัดมากลุ่มธนาคารพาณิชย์น่าจะประกาศแผนการดำเนินงานและจ่ายเงินปันผล แม้ว่าหุ้นบางตัวจะมี Sentiment ลบบ้างส่งผลกับราคาหุ้น แต่หากมีการปันผลจะเป็นการจำกัดดาวน์ไซด์ของราคาหุ้นได้

นอกจากนี้ในสัปดาห์นี้นักลงทุนรอติดตามสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/66 และการรายงานตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนธ.ค. เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,375 จุด และแนวต้าน 1,395 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (19 ม.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,863.80 จุด เพิ่มขึ้น 395.19 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,839.81 จุด เพิ่มขึ้น 58.87 จุด หรือ +1.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,310.97 จุด เพิ่มขึ้น 255.32 จุด หรือ +1.70%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,349.05 จุด เพิ่มขึ้น 40.36 จุด หรือ+0.26% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,826.50 จุด ลดลง 5.78 จุด หรือ -0.20% ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,294.10 จุด เพิ่มขึ้น 330.83 จุด หรือ +0.92%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ม.ค.) ที่ 11,382.51 จุด เพิ่มขึ้น 4.58 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 49,266.20 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,226.71 ล้านบาท (19 ม.ค.)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(19 ม.ค.) ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 73.41 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในรอบสัปดาห์นี้

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ม.ค.) อยู่ที่ 7.92 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.54 อ่อนค่าเล็กน้อย จับตาราคาทองคำ-ตัวเลขศก.สหรัฐ-ประชุม ECB-BOJ

– ตลท. กางแผนงานปี 2567-2569 มุ่งยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน-เสริมศักยภาพการแข่งขัน หนุนขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน พร้อมถอดบทเรียนกรณี STARK-MORE เพิ่มความเข้มงวดตรวจข้อมูลผิดปกติ-เตือนนักลงทุนหวังสกัดความเสียหายในอนาคต “ภากร ปีตธวัชชัย” เผยปีนี้มี 43 บริษัทจ่อเข้าระดมทุนทั้ง SET และ mai เล็งศึกษากรณีช็อตเซลล์หาทางออกที่เหมาะสม คาดชัดเจนสัปดาห์แรกเดือนกุมภาพันธ์นี้

– เอกชนห่วงเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทวืด ทำเศรษฐกิจไทยโตต่ำ เหตุปัจจัยทั้งในและนอกประเทศรุมเร้า วิกฤตทะเลแดงทุบส่งออก เสี่ยงดันเงินเฟ้อโลกพุ่งรอบใหม่ จี้รัฐเตรียมแผนสองกระตุ้นเศรษฐกิจโตจากภายใน ดันไทยเที่ยวไทย ช้อปดีมีคืน 10 จังหวัดเป็นเมืองหลัก เพิ่มจัดซื้อจัดจ้างสินค้าเมด อิน ไทยแลนด์

– นายกฯ ยันรัฐบาลจัด ครม.สัญจรทุกภาค พร้อมรับฟังเสียงค้าน “แลนด์บริดจ์” ยันไม่คิดปรับ ครม. เล็งขนเจ้าสัวทัวร์ทั่ว ปท. ด้าน “สว.เฉลิมชัย” ยัน 98 สว.ยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาลวันนี้ ย้ำเพื่อทวงสัญญาคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

– รพ.เอกชน เติบโต หลังโควิด-19 เร่งขยายลงทุน “รพ.เมดพาร์ค” รุกเทคโนโลยีวินิจฉัยรักษา เปิดศูนย์ ปลูกถ่ายอวัยวะ “รพ.พญาไท-เปาโล” ใช้ AI ช่วยแพทย์วินิจฉัย “รพ.วิมุต” ลุยการแพทย์เฉพาะทาง “กระดูก ข้อ หัวใจ” ร่วมสิงคโปร์ขยายแล็บ “หมอบุญ” เพิ่มลงทุน ไทยและต่างประเทศ ขยายฐานคนไข้ “BCH” ปรับตัวสู่ศูนย์เป็นเลิศทางการแพทย์

– รฟท.เร่งถกสางเงื่อนไข “ไฮสปีด 3 สนามบิน” หลังบีโอไอ ไม่ต่ออายุบัตรส่งเสริมรอบ 3 ชี้ข้ออ้างแก้สัญญาไม่กระทบสิทธิ์ ลุ้นคำตอบอัยการเตรียมออก NTP เริ่มก่อสร้าง ปรับใหม่โยนโครงสร้างร่วมให้ “ซี.พี.” ทำ ชงเพิ่มงบรถไฟไทย-จีนอีก 5 พันล้าน

 

หุ้นเด่นวันนี้

– AAV (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 2.70 บาท คาดกำไรในไตรมาส 4/66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวมีกำไรจากไตรมาส 3/66 จากแรงหนุนจาก high seasonal tourism ในไตรมาส 4/66 ที่อาจส่งผลให้ load factor อยู่ในระดับสูง และการปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ภาพของกำไรในปี 2567 จะ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากมาตรการยกเว้น VISA และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน

– ITC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 24.10 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 645 ลบ. +45% QoQ, -56% YoY ภาพ YoY ยังหดตัวจากฐานที่สูง แต่ QoQ เห็นการฟื้นตัวได้ดีชัดเจนจากการที่คู้ค้ากลับมาสต็อกสินค้าอีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาด เอเชีย-โอเชียเนียและอื่นๆ ที่ยอดขาย +30%QoQ +1%YoY จากสินค้าใหม่ๆในไทยและญี่ปุ่น รวมไปถึงตลาดใหม่ในจีน ส่วนการดำเนินงานไตรมาส 4/66 คาดว่ายังจะฟื้นตัวต่อได้ในแง่ของ QoQ ทั้งจากยอดขาย และ มาร์จิ้นที่กดดันน้อยลงจากต้นทุนราคาปลาทูน่าที่ลดลง โดยตัวเลขส่งออกอาหารสุนัขและแมวของไทยต.ค.-พ.ย.66 +1.5%YoY และคิดเป็น 73%ของ 3Q66 ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี 66 และ67 กำไรสุทธิของ ITC จะอยู่ที่ระดับ 2,225 ลบ.(-50%YoY) และ 2,980 ลบ.(+34%YoY)

– HMPRO (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 11.50 บาท ลงมาแรงๆ หาจังหวะซื้อ HMPRO เป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนผิดหวังมาตรการกระตุ้นต่างๆ และเชื่อว่ามาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมด้วย แต่ถ้ามองแบบ tactical call ราคาลงมาแรงแล้วเร็ว มีโอกาสเล่น rebound ได้ โดยดูจุดซื้อไว้แถวๆ 10.50 บาท คาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ 1.7 พันล้านบาท -6% YoY ; +11% QoQจาก SSSG ขยายตัวราว 3-4% ขณะที่ รายได้ขยายตัว +11% YoY หลักจากสาขาที่เพิ่มขึ้น MegaHome 4 สาขา และ HomePro 1 สาขา คือกำไรดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา  ตัวแปรที่มีผลต่อ HMPRO จะเป็นเรื่อง กำไรไตรมาส 1/67  ที่จะมีเรื่องมาตรการ e-receipt 50,000 บาท ที่น่าจะทำให้รายได้สูงขึ้น (แต่ยังไม่มั่นใจว่า เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายจะชะลอไปบ้างหรือไม่)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top