หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ เก็งแบงก์ชาติจีนลดดอกเบี้ยหนุน Sentiment ภูมิภาค

นักวิเคราะห์ ฯ ระบุแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ รับรู้ตัวเลข GDP ที่ต่ำกว่าคาดแล้ว เชื่อตลาดให้น้ำหนักกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะถัดไป ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามตลาดหุ้นจีน วันนี้ธนาคารกลางจีนจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) หากลดลงจะหนุนบรรยากาศตลาดหุ้นภูมิภาค พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ คาด Price in จากตัวเลข GDP ที่ต่ำกว่าคาดแล้ว ซึ่งต้องติดตาม Consensus ของการทยอยการปรับลด GDP ออกมาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมีสัญญาณเชิงบวกคือหลังจากการประกาศตัวเลข GDP ดัชนีปรับลงเล็กน้อยและดีดกลับขึ้นมาได้ สะท้อนว่าตลาดน่าจะให้น้ำหนักกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป อาทิ มาตรการทางการคลังและการเงิน

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ติดตามตลาดหุ้นจีน ซึ่งหลังจากเปิดทำการดัชนีปรับตัวบวก โดยในวันนี้ธนาคารกลางจีน(PBOC) จะประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับลดลงที่ 4.1% จากเดิม 4.2% และอาจตีความเชิงบวกกับตลาดหุ้นจีนได้เช่นเดียวกัน หนุนบรรยากาศตลาดหุ้นภูมิภาคได้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีแรงขับเคลื่อนที่มีนัยสำคัญ นักลงทุนให้น้ำหนักผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายตัว

กลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้เน้นเลือกลงทุนหุ้นรายตัว โดยแนะนำ GPSC ซึ่งมองว่าได้ประโยชน์จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับลง รวมทั้งกำไรปี 67 น่าจะเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า และ STANLY ซึ่ง Valuation ไม่แพงและมีปันผลสูง

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 19 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,222.09 จุด เพิ่มขึ้น 66.48 จุด หรือ +0.41% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,902.88 จุด ลดลง 7.66 จุด หรือ -0.26% ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,510.37 จุด เพิ่มขึ้น 39.99 จุด หรือ +0.10%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ก.พ.) ที่ 1,387.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด (+0.08%) มูลค่าซื้อขาย 31,776.98 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,210.14 ล้านบาท (19 ก.พ.)

– ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 19 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.พ.) อยู่ที่ 7.81 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.10 แนวโน้มอ่อนค่า ตลาดจับตาถ้อยแถลง BoE-ECB ประเมินนโยบายการเงิน

– สศช.ลดจีดีพีปี 2567 จาก 3.2% เหลือ 2.7% รับความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้ง ภูมิรัฐศาสตร์ ภาคการผลิตไม่ฟื้น ส่วนจีดีพีปี 2566 โต 1.9% ชี้ถึงเวลาใช้มาตรการการเงินพยุงเศรษฐกิจ หลังมาตรการการคลังใช้หมดแล้ว แต่หนี้ครัวเรือน ยังสูง เอสเอ็มอีมีสัญญาณหนี้เสีย “เศรษฐา” ชี้ ถึงเวลาต้องลดดอกเบี้ยลดภาระประชาชน ธปท.นัดหารือสภาพัฒน์ จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต

– “นักเศรษฐศาสตร์” มองเศรษฐกิจไทยเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะงักงัน “กรุงไทย” ชี้จีดีพีชะลอควบคู่เงินเฟ้อสะท้อนอาการ Stagnation ด้าน “เกียรตินาคินภัทร” เชื่อไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่ห่วงโตช้า พร้อมประเมินศักยภาพใหม่เศรษฐกิจไทย อาจขยายตัวได้เพียง 2.5% ด้าน “ศูนย์วิจัยกสิกร” เตรียมหั่นคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลง สะท้อนเศรษฐกิจทรุด เหตุหนี้ครัวเรือนฉุดรั้งการบริโภค

– การท่องเที่ยวและใช้จ่ายของจีนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน แซงหน้าช่วงก่อนวิกฤติโควิดในปี 2562 แล้ว สะท้อนกำลังซื้อของจีนที่เริ่มกลับมา ขณะที่ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องรอบใหม่ 5 แสนล้านหยวน แต่ยังไม่ลดดอกเบี้ย คาดเป็นห่วงเสถียรภาพค่าเงินหยวน

– พลังงานแย้มจ่อหารือสรรพสามิต หวังใช้กลไกภาษีช่วยอุ้มราคาดีเซล หลังกองทุนน้ำมันรับภาระอ่วม แบกต้นทุนทะลุ 5.30 บาท หวังยืนราคาได้แค่สิ้น มี.ค.นี้ หวั่นติดลบแสนล้านใน เม.ย.67

*หุ้นเด่นวันนี้

– บมจ.เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ NL ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 โดยราคา IPO หุ้นละ 2.60 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,300 ล้านบาท

– GPSC (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 58.00 บาท โตเด่นสุดกลุ่มโรงไฟฟ้า คาด EPS Growth 67E ที่ 118% เติบโตเด่นที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เราศึกษา แรงหนุนหลักมาจากแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติในปีนี้ที่ปรับลดลง รวมถึงการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2567 ช่วยลดราคา Pool Gas ของ SPP และเป็นบวกต่อ Spark Spread หนุนต่อผลประกอบการ ขณะที่ราคาค่าไฟเชื่อว่าแรงกดดันจากนโยบายภาครัฐจะเริ่มทำได้ยากมากขึ้นส่วนระยะสั้นมี Sentiment บวก 2 ปัจจัยหนุนราคาหุ้น 1) ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับลงในรอบกว่า 3 ปี 2) Bond Yield ที่ผ่านจุดสูงสุด

– PSL (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 9.40 บาท ค่าระวางเรือ BDI ฟื้นตัว 1.18% วานนี้และมีแนวโน้มขึ้นต่อจากการเข้าสู่ช่วง Hi season นอกจากนี้มองว่าจะมีการ restocking ก่อนการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ปลายปีจากนโยบายหาเสียงของ Donald Trump ที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าโดยเฉพาะกับจีน และหลังเลือกตั้งมีแนวโน้มจะหย่าศึกระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้คาดว่าจะเห็นอุปสงค์สินค้าแห้งเทกองในการบูรณะยูเครนด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 67)

Tags: , ,
Back to Top