หุ้นไทยปิดพุ่ง 12.54 จุด ฝรั่งจุดพลุไล่ซื้อหุ้นปันผล-หุ้นเทิร์นอะราวด์ แบงก์-ไฟแนนซ์นำ

SET ปิดวันนี้ที่ 1,393.61 จุด เพิ่มขึ้น 12.54 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 64,865.89 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวสูงมาก โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,395.11 จุด ทำจุดต่ำสุด 1,379.02 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 294 หลักทรัพย์ ลดลง 184 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 177 หลักทรัพย์

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับตลาดเอเชีย อาทิ ฮ่องกง และจีน ขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ซึ่งมาตรการดังกล่าวช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ทำให้ตลาดหุ้นจีนมีแรงซื้อในกลุ่มอสังหาฯรวมทั้งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ EV

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อจากกลุ่มธนาคารพาณิชน์และไฟแนนซ์ โดย SCB ที่ปรับตัวบวกนำกลุ่มหลังจ่ายเงินปันผลสูง ซึ่งจากการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดว่าน่าจะมีการจ่ายเงินปันผลสูงทั้งกลุ่ม และ MTC ที่ประกาศผลประกอบการ กำไรสุทธิสูงกว่าที่ตลาดคาด โดย NPL ลดลงสะท้อนความสามารถในการควบคุม NPL ได้ ซึ่งต้องติดตามการประกาศผลประกอบการหุ้นการเงินต่อ หาก NPL ลดลงก็จะเป็นผลบวกทำให้หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก และต่างชาติอาจเข้ามาซื้อ

โดยเริ่มเห็นเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ โดยเฉพาะในวันนี้ที่เห็น Flow เข้ามาในหุ้นที่มีการจ่ายปันผล และหุ้นบางตัวที่คาดว่าจะฟื้นกลับมาในปีนี้ ซึ่งหาก Flow กลับเข้ามาทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีปรับตัวขึ้นได้ต่อ

พรุ่งนี้ให้กรอบแนวรับ 1,385 จุด และแนวต้าน 1,403 จุด โดยวางกลยุทธ์ในการลงทุนแนะนำหุ้นปันผลสูง เช่น KTB และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV อาทิ EA,NEX ,GPSC

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

SCB มูลค่าการซื้อขาย 6,352.30 ล้านบาท ปิดที่ 111.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,532.71 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,425.27 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,032.82 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,697.54 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 67)

Tags: ,
Back to Top