หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าฟื้นรับ sentiment บวกเฟดคงส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดฟื้นตัวหลังเมื่อวานนี้ปรับลงไป สอดคล้องกับตลาดภูมิภาคที่ได้ Sentiment บวกจากผลกาประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนนี้ออกมาในโทน Dovish และตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับเชิงบวก ทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ที่ยังคงส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

รวมทั้งได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่ระบุว่าการลดดอกเบี้ยในปีนี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แม้เศรษฐกิจดูแข็งแรงกว่าคาดเนื่องจากการปรับ GDP ขึ้นจาก 1.4% เป็น 2.1% และเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้นบ้างในระยะสั้น แต่ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของเฟด ส่งผลให้ภาพรวมเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นกลับมาเป็นบวก

กลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้แนะนำกลุ่มที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และดอกเบี้ยที่เป็นขาลง ได้แก่ กลุ่มไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้า และเมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบขยับลงมา น่าจะเป็นบวกกับกลุ่มสายการบิน

พร้อมทั้งให้กรอบแนวต้าน 1,380-1,385 จุด และแนวรับ 1,375 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 มี.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,512.13 จุด เพิ่มขึ้น 401.37 จุด หรือ +1.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,224.62 จุด เพิ่มขึ้น 46.11 จุด หรือ +0.89% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,369.41 จุด เพิ่มขึ้น 202.62 จุด หรือ +1.25%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,762.83 จุด เพิ่มขึ้น 219.76 จุด หรือ +1.32% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,084.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.72 จุด หรือ +0.15% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 40,511.55 จุด เพิ่มขึ้น 507.95 จุด หรือ +1.27%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 มี.ค.) ที่ 1,373.18 จุด ลดลง 9.28 จุด (-0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 54,666.79 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 20,092.90 ล้านบาท (20 มี.ค.)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. (20 มี.ค.) ลดลง 1.79 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 81.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 มี.ค.) อยู่ที่ 5.44 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.94 พลิกแข็งค่า รับดอลลาร์อ่อนหลังเฟดส่งสัญญาณลด ดบ.ปีนี้ 3 ครั้ง

– 3 ทุนใหญ่ “เอสซีบีเอกซ์ กัลฟ์-ทรู” พร้อมลงสนามชิงไลเซนส์ “เวอร์ชวลแบงก์” หลัง ธปท.เปิดยื่นขอใบอนุญาต “อาทิตย์” ประกาศพันธมิตร “เทคจีน” ผนึกธนาคารดิจิทัลเกาหลีใต้ ไม่หวั่นแข่งขันเดือด มองเป็นผลดีช่วยผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบริการการเงิน “ศุภชัย” เตรียมส่ง “ทรูมันนี่-แอนท์” ยื่นขอไลเซนส์ หวังช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย “สารัชถ์” ลั่นพร้อมลุยขอไลเซนส์

– ผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” เสนอยุทธศาสตร์เคาะราคาค่าไฟฟ้าปีละ 1 ครั้ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ชี้ค่าเอฟที นิ่ง ต่ำ นาน สร้างความเชื่อมั่น หนุนคงค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.-ส.ค. ที่ 4.18 บาท/หน่วย แบ่งชำระคืนต้นทุนคงค้างให้กฟผ. 7 งวด เพื่อให้สามารถบริหารสภาพคล่องได้

– “ทีดีอาร์ไอ” เตือน “เศรษฐา” ปรามทีมงานเลิกทะเลาะแบงก์ชาติ ยกบทเรียนต่างชาติสุดท้ายนายกฯ ต้องลาออกเอง แนะรัฐบาลคิดรอบคอบแจกเงินดิจิทัล ทบทวนแลนด์บริดจ์

– ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่สั่งรับคำร้อง กกต.ยื่นยุบพรรคก้าวไกล หลังพบเอกสารบางรายการไม่ชัดเจน แจ้งยื่นใหม่ภายใน 7 วัน ตีตกคำร้อง “เรืองไกร” ปม เพื่อไทยแถลงแก้ ม.112 ชี้ไม่มีหลักฐานใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง

– ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันที่ 20 มี.ค. 2567 ได้มีมติเห็นชอบการเปิดรับสมัครผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14 แทนนายภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนปัจจุบัน ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในช่วงกลางเดือน ก.ย. 2567 ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14 จะได้เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยตำแหน่งด้วย

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– CENTEL (ไอร่า) “ซื้อสะสม” เป้าหมาย 45.00/47.00 บาท มองราคา CENTEL ย่อตัวลงมาจากช่วงก่อนหน้าไปในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี’67 จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากทั้งฝั่งโรงแรมและร้านอาหาร อีกทั้งเราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวมากขึ้นและแผนการเปิดโรงแรมในปี’67 จะช่วยหนุนทิศทางกำไรของ CENTEL ปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบหลัก Sideways เริ่มยกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นสูงขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ

– TIDLOR (พาย) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27.00 บาท คาดว่าปี 67 จะเป็นปีที่ดีขึ้นของ TIDLOR โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น 19.1% จากที่เติบโตเพียง 4.1% ในปี 66 หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวจากสินเชื่อเติโต และรายได้ค่าธรรมเนียมจากนายหน้าธุรกิจประกันสูงขึ้น โดยมองว่าคุณภาพสินเชื่อและราคารถมือสองจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ ทั้งนี้ การขยายตัวสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียม รวมถึงสำรองหนี้ฯ ที่ ผ่อนคลายลง เราคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 แนวโน้มเติบโตดีขึ้นทั้ง YoY และ Q๐Q

– GLOBAL (กสิกรไทย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 19.2 บาท กำไรปี 67 จะได้รับแรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่ 7-8 แห่งในปี 67 เทียบกับที่ 6 แห่งในปี 66 เราคาดว่า GPM ในปี 67-68 จะขยายตัวขึ้น 40 bps มาอยู่ที่ 25.9% และ 26.1% ตามลำดับ หนุนจาก GPM ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มเหล็กและยอดขายที่มากขึ้นจากสินค้า private label นอกจากนี้ แนวโน้มค่าไฟฟ้าที่ลดลงและการควบคุมระดับสินค้าคงคลังคาดจะช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเติบโตช้ากว่ายอดขาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top