
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6% ในวันอังคาร (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานในตะวันออกกลาง
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.14 ดอลลาร์ หรือ 6.04% ปิดที่ 64.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.34 ดอลลาร์ หรือ 6.07% ปิดที่ 67.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศในวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ว่าอิหร่านและอิสราเอลได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งแม้จะมีรายงานว่าทั้งอิหร่านและอิสราเอลได้ละเมิดข้อตกลงในช่วงแรก แต่การที่ปธน.ทรัมป์สามารถโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงได้นั้น ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มลดลง และทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางลดน้อยลงด้วย
ราคาน้ำมันยังปรับตัวลง หลังจากปธน.ทรัมป์ระบุว่า จีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังผ่อนคลายนโยบายกดดันต่ออิหร่าน หลังมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล
ข้อมูลจากเคปเลอร์ (Kpler) ระบุว่า จีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่าน คิดเป็นสัดส่วนจำนวนมากของการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านราว 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 93.0 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 98.4 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.5 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 4.277 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 มิ.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 68)