
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์
โดยตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways สอดคล้องกับการไร้ทิศทางที่ชัดเจนของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำ โดยผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ ตลาดรอการรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯรวมถึงประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ที่กำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณ และที่สำคัญรอติดตามแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า
ส่วนฝั่งไทย ตลาดต่างรอติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้อง “ถอดถอนนายกรัฐมนตรี” ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่
“วันที่ 1 ก.ค. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับคำร้อง “ถอดถอนนายกรัฐมนตรี” ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ โดยหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องดังกล่าว ก็อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และการเมืองไทยเผชิญความวุ่นวายอีกครั้ง” นายพูน ระบุ
สำหรับแนวโน้มเงินบาทนั้น แม้โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ แต่การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่าน มาอาจชะลอลง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงการเมืองของไทย ที่อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ ในกรณีที่สถานการณ์การเมืองไทยมีความไม่แน่นอน
นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.55-32.75 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 144.31 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.541 บาท/ดอลลาร์
– พิชัย” นำทัพบุกสหรัฐสัปดาห์นี้ เจรจาการค้าทันเส้นตาย เผยข้อเสนอสหรัฐเบื้องต้น เก็บภาษีตอบโต้ไทย 18% ด้านไทยยื่นขอลดภาษีเหลือ 10% ลุ้นขยายระยะเวลาผ่อนผันจัดเก็บภาษีอัตราใหม่
– สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผย เศรษฐกิจไทย พ.ค.68 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศชะลอตัวลง ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป
– สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (Thai BMA) เผยตลาดรองตราสารหนี้ยังเป็นทางเลือกที่หลายคนไม่คุ้นเคย แม้มีบทบาทสำคัญต่อการซื้อขายก่อนครบกำหนดหรือหลังพลาดรอบแรก พบปี 67 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยสูงถึง 78,504 ล้านบาทต่อวัน กลุ่มกองทุนรวม-ต่างชาติถือเป็นผู้เล่นหลัก ขณะที่นักลงทุนรายย่อยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้านแบงก์ไทยรับบท “ดีลเลอร์” ตัวกลางหลักกว่า 85% ของ
มูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
– ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า รายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภคหดตัวอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ค. แม้ว่าภาษีนำเข้าจะยังไม่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคา แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อรายปีที่ 2% ของเฟด
– มหาวิทยาลัยมิชิแกนยืนยันว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นในเดือนมิ.ย. แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับการฟื้นตัวหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนธ.ค.
– นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ตุลาคม และธันวาคม จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซา
– นักลงทุนขานรับคาดการณ์การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ และจีนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงการค้าแล้ว และคาดว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงกับคู่ค้ารายใหญ่จำนวน 10 ประเทศในเร็ว ๆ นี้
– ปัจจุบัน สหรัฐฯ กำลังเร่งปิดการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้าจำนวนมาก ก่อนถึงเส้นตายที่กำหนดไว้ในวันที่ 9 ก.ค. อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.) ว่า ทรัมป์อาจจะขยายเส้นตายดังกล่าวออกไปได้เช่นกัน
– หัวหน้าผู้แทนเจรจาต่อรองการค้าของญี่ปุ่นได้เจรจาทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาถึง 2 รอบ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายได้พยายามที่จะสรุปประเด็นที่ท้าทายที่สุด เพื่อที่จะทำข้อตกลงที่จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศ
– ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพ.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราว่างงานเดือนมิ.ย., ยอดนำเข้า ยอดส่งออก
และดุลการค้าเดือนพ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 68)