หุ้นไทยปิดบวก 7.14 จุดคาดหวังเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ พรุ่งนี้รอลุ้นศาลรธน.รับคำร้องปมคลิปนายกฯ

SET ปิดวันนี้ที่ 1,089.56 จุด เพิ่มขึ้น 7.14 จุด (+0.66%) มูลค่าซื้อขาย 47,225.04 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวขึ้นมาได้ หลังภาพรวมปัจจัยตลาดเริ่มดูดีขึ้น ทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน และการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ เริ่มมีความคืบหน้าชัดเจน รวมถึงตลาดที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ SET ก็ยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสาร อย่าง TRUE-ADVANC จากการชนะประมูลคลื่นความถี่ใหม่ แต่ยังมีแรงกดดันเรื่องการเมือง แนวโน้มวันพรุ่งนี้ จึงแนะนำให้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับพิจารณาคำร้องหรือไม่ เรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน รวมถึงให้ติดตามการเจรจาการค้าด้วย พร้อมให้กรอบแนวต้าน 1,105 จุด แนวรับ 1,075 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ 1,089.56 จุด เพิ่มขึ้น 7.14 จุด (+0.66%) มูลค่าซื้อขาย 47,225.04 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้น โดยทำระดับสูงสุด 1,094.77 จุด และต่ำสุด 1,080.92 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 300 หลักทรัพย์ ลดลง 162 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 193 หลักทรัพย์

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดี หลังภาพรวมปัจจัยตลาดเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่มีสัญญาณเชิงบวก และการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีความคืบหน้าชัดเจน โดยผู้แทนจากรัฐบาลไทยกำลังเดินทางไปกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ภายในคืนนี้เพื่อการเจรจาอย่างเป็นทางการ และถ้าหากผลสรุปของการเจรจา มีมติเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10-15% ประเทศไทยก็ยังจะมีความสามารถในการแข่งขันอยู่

รวมถึงตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ไม่ได้เพิ่มสูงมาก และสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ได้ชะลอตัวอย่างรุนแรง ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่อาจมีการลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยในวันนี้ SET ก็ยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสาร อย่าง TRUE-ADVANC หลังทั้งสองต่างชนะประมูลคลื่นความถี่ใหม่ในราคาที่ไม่สูงจนมีนัยยะสำคัญ แต่อาจจะมีแรงกดดันเรื่องการเมืองที่ทำให้ดัชนีไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากกว่านี้

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ จึงแนะนำให้ติดตามปัจจัยการเมืองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ กรณีศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะรับหรือไม่รับพิจารณาคำร้องเรียนเรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยถ้าไม่รับ ก็อาจเป็นปัจจัยเชิงบวกให้แก่ตลาดได้ และรวมถึงให้ติดตามการเจรจาการค้าต่อไปด้วย

พร้อมให้กรอบแนวต้าน 1,105 จุด และแนวรับ 1,075 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KTC มูลค่าการซื้อขาย 4,454.25 ล้านบาท ปิดที่ 24.00 บาท ลดลง 0.40 บาท
  • ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 4,134.92 ล้านบาท ปิดที่ 278.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
  • DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,598.07 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
  • TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,297.03 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,604.46 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 68)