
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจค้นพยานหลักฐานขบวนการรีดหัวคิวแรงงานนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา หลังได้รับหนังสือร้องเรียนว่า ตามที่กระทรวงแรงงานของไทยได้มีประกาศกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 26 พ.ย.567 ผ่อนผันให้มีการต่อใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ที่ครบกำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาตในวันที่ 13 ก.พ.68 ซึ่งประกอบด้วย เมียนมา 2,012,856 คน กัมพูชา 287,557 คน ลาว 94,132 คน และเวียดนาม 3,673 คน โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ว่าผู้ที่จะต่อใบอนุญาตทำงานต้องได้รับการรับรองจากสถานทูตและนายหน้าจัดหางาน (AGENCY) จากประเทศต้นทางเสียก่อน ทำให้เกิดมีขบวนการเรียกรับเงินจากแรงงานต่างด้าวที่ต้องการจะต่อใบอนุญาตทำงานดังกล่าว โดยแรงงานต่างด้าวแต่ละคนจะจ่ายเงินเพิ่มเติมจากค่าใช้จ่ายปกติตามที่ทางราชการกำหนดอีกรายละ 2,500 บาท โดยการบอกกล่าวจากนายหน้าคนไทยเป็นคนแจ้งไปยังนายจ้างและแรงงานต่างด้าวให้โอนเงินส่วนนี้ผ่านบัญชีม้า ซึ่งเป็นบัญชีของคนต่างด้าวด้วยกัน หากไม่จ่ายเงินส่วนนี้ก็จะไม่ได้รับการอนุมัติให้ต่อใบอนุญาต ทำให้แรงงานต่างด้าวเกิดความกลัวว่าจะถูกจับกุมจึงยอมทำตาม สร้างความเสียหายให้กับแรงงานต่างด้าว นายจ้าง และบริษัทผู้รับจ้างฯ
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวบางส่วนได้ถูกโอนไปยังเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา โดยวันนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าทำการตรวจค้นพยานหลักฐานในคดีจำนวน 4 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ เป็นผู้ดำเนินการรับต่อใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานสัญชาติกัมพูชา ผลการตรวจค้นพบพยานหลักฐานอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนและจะทำการขยายผลต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)