BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 32.10-32.80 ตามต่อสงครามการค้า-เงินเฟ้อสหรัฐฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.52 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 32.40-32.72 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เดินหน้ายกระดับความตึงเครียดทางการค้าด้วยการประกาศภาษีนำเข้ากับญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ในอัตรา 25% รวมถึงสินค้าจากแคนาดาในอัตรา 35% โดยให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ส.ค.68

ส่วนไทยจะถูกเรียกเก็บภาษี 36% ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่สหรัฐฯประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังดำเนินนโยบายภาษีตอบโต้รายภาคอุตสาหกรรม เช่น ทองแดง และเภสัชกรรม อีกทั้งเรียกเก็บภาษีศุลกากร 50% กับบราซิล ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่เคยประกาศเมื่อวันที่ 2 เม.ย. และบราซิล ขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ทำให้มาตรการดังกล่าว ถูกมองว่าเป็นการใช้กำแพงภาษี เพื่อเหตุผลทางการเมือง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 2,930 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตรสุทธิ 2,822 ล้านบาท

ในสัปดาห์นี้ ขณะที่สงครามการค้าจะเป็นประเด็นชี้นำสำคัญสำหรับสกุลเงินต่าง ๆ หลังจากผู้นำสหรัฐฯ ประกาศภาษีตอบโต้ชุดใหม่บนสินค้านำเข้าจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยช่วงสุดสัปดาห์ ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และเม็กซิโก ที่อัตรา 30%

แม้ปฏิกิริยาของตลาดในภาพรวม ยังคงสะท้อนการคาดการณ์เชิงบวกต่อการเจรจาก่อนเส้นตายที่เลื่อนออกไปเป็น 1 ส.ค. แต่เรามองว่าการส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีล่าสุด เป็นกลยุทธ์ของสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มแรงกดดัน ซึ่งดูเหมือนรัฐบาลทรัมป์กำลังได้รับการสนับสนุนจากภายในพรรครีพับลิกันมากขึ้น หลังจากสามารถผ่านกฎหมายงบประมาณครั้งสำคัญ ทำให้ทรัมป์ มีพื้นที่ในการบีบคู่เจรจาอย่างรุนแรงต่อไป

ขณะที่ภาษี 36% กับไทย ถือเป็นหนึ่งในอัตราภาษีสูงสุดในเอเซีย นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินจังหวะเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยลงอีกครั้ง

สำหรับปัจจัยในประเทศ รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.68 ระบุว่า เศรษฐกิจไทยถูกฉุดรั้งด้วยหลายปัจจัย และนโยบายการเงินเพียงอย่างเดียว มีประสิทธิภาพจำกัดในการแก้ไขปัญหา โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินมูลค่าส่งออกจะหดตัว 4% ในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องมาจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 68)