เงินบาทเปิด 32.28 ตลาดเกาะติดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา, ตัวเลขศก.สหรัฐ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.28 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.26 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทยังเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางที่ชัดเจน ในลักษณะ Sideway เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์ และ ราคาทองคำ

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท แม้จะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น ส่วนราคาทองคำก็ทยอย ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความหวังแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า แต่การอ่อนค่าลงของเงินบาท ก็ยังเป็นไปอย่างจำกัด

คืนนี้ ตลาดจะรอประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ต่อแนวโน้มภาคการผลิตของสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลยอด คำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. และรอลุ้นรายงานคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 โดยเฟด สาขา Atlanta (GDPNow)

ส่วนในฝั่งไทย สถานการณ์ความขัดแย้งและการสู้รบตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ตลาดรอติดตาม เช่นกัน “เงินบาทมีความเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลงได้ หากเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ในกรณีที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสด ใส ส่วนราคาทองคำก็ถูกกดดันจากบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยง” นายพูน ระบุ นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.35 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.33 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 146.58 เยน/ดอลลาร์ 
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1740 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1752 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.206 บาท/ดอลลาร์
  • หอการค้าไทยห่วงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เรียกร้องทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ ด้าน ส.อ.ท.เผยปิดด่านทำไทยสูญ รายได้วันละ 500 ล้านบาท ลุ้นรัฐบาลหาทางหยุดกรณีปะทะกันโดยเร็วที่สุด 
  • รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ จะหารือกันอีกรอบในวันที่ 24 ก.ค.นี้ เพื่อตอบคำถาม ประเด็นสหรัฐฯ สอบถามเพิ่มเติม
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนองบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยัง คงเหลืออีก 42,000 ล้านบาท จากวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้รับมือผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ 
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 227,000 ราย
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.6 ในเดือนก. ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 52.9 ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ ดัชนี PMI ได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวของการจ้าง งาน แม้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร ของประธานาธิบดี สหรัฐ 
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจาก ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง 
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 24.1 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 3,373.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวลงติดต่อ กันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีสัญญาณว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกเริ่มคลี่คลายลง 
  • นักลงทุนจับตาประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งเดินทางเยือนสำนักงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงเช้า วันนี้ ตามเวลาไทย โดยคาดว่าการเผชิญหน้ากันระหว่างปธน.ทรัมป์ และเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเป็นการกดดันและแทรกแซง ความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายของเฟด 
  • นักลงทุน คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่คณะกรรมการกำหนดนโยบาย การเงิน (FOMC) ในวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ และคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.68

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 68)