INTERVIEW: SAWAD ตรึงเป้าสินเชื่อทั้งปีโต 5-10% แม้เศรษฐกิจท้าทาย เน้นปรับพอร์ต-เพิ่มความระวัง ชูโอกาสใหม่ธุรกิจประกันภัย

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น [SAWAD] เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ภาพรวมของแนวโน้มสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังของปี 68 ยังมั่นใจว่าเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจากช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังความต้องการใช้สินเชื่อจะสูงขึ้น ประกอบกับการที่ทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ส่งผลให้กลุ่มสินเชื่อรายย่อย (Consumer Finance) ทั้งธุรกิจจำนำทะเบียน และสินเชื่อเช่าซื้อ สามารถบริหารจัดการต้นทุนอัตราดอกเบี้ยจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเชิงจิตวิทยาบวกให้กับกลุ่มฐานรากมีความสามารถจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงมีความสามารถในการผ่อนชำระเพิ่มขึ้นด้วย

“การปล่อยสินเชื่อช่วงครึ่งหลังมองว่าจะเร่งตัวขึ้น ยังมั่นใจสินเชื่อเติบโตได้ 5-10% ตามเป้าหมาย แม้ว่าลดพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อลง แต่ก็หันมามุ่งเน้นเติบโตสินเชื่อจำนำทะเบียน เพราะในระยะกลางและระยะยาวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้สูญ แต่ในปีนี้ที่ตั้งสำรองสูง เพื่อให้สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจที่มีความท้าทายสูง” นางสาวธิดา กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังมีความท้าทาย รายได้ภาคครัวเรือนมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น บริษัทจึงเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยการลดสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันลงมาบ้าง เพื่อมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ ควบคู่การบริหารจัดการการขายรถยึดอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากราคารถมือสองเริ่มทรงตัว และบางช่วงก็ฟื้นตัวขึ้น

นางสาวธิดา กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 4% โดยยังคงตั้งสำรองฯในระดับสูงต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ป้องกันความเสี่ยงรองรับการเติบโตพอร์ตสินเชื่ออย่างแข็งแกร่งในอนาคต

ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนกัมพูชาและปัญหาน้ำท่วม SAWAD ถือว่ามีสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ชายแดนกัมพูชาในสัดส่วนในพอร์ตน้อยมาก และบริษัทกำลังดูแลลูกค้ากลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดความตึงเครียดชายแดนเกิดขึ้น ส่วนปัญหาน้ำท่วม บริษัทก็มีประสบการณ์ในการรับมือมาแล้วหลายครั้ง จึงเตรียมความพร้อมหาแนวทางช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถตั้งตัวได้ก่อน และสามารถกลับมาชำระคืนสินเชื่อได้ตามปกติหลังจากที่ลูกค้าสามารถตั้งตัวได้แล้ว

ด้านการปรับพอร์ตสินเชื่อของ SAWAD ได้มีการปรับสัดส่วนสินเชื่อให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นมาเป็น 25% จากปีก่อนที่ 16% และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลดลงมาที่ราว 25% จากปีก่อนที่ 31% สินเชื่อที่ดิน 25% และสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน 3% และที่เหลือเป็นสินเชื่ออื่นๆ ซึ่งเป็นการปรับพอร์ตสินเชื่อเพื่อทำให้มีเสถียรภาพมากขึ้นและมีผลตอบแทนสูงขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสในธุรกิจนายหน้าประกันภัย หลังจากที่แนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากฐานลูกค้าสินเชื่อมีหลักประกัน และลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ “ศรีสวัสดิ์” โดยบริษัทรวบรวมกรมธรรม์ประกันภัยหลากหลาย สามารถคำนวณเบี้ยประกันให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าด้วยการนำเสนอแบบเฉพาะเจาะจง จึงสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม อีกทั้งยังพัฒนาแอปพลิเคชันที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อประกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้รายได้กลุ่มธุรกิจประกันภัยเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้ายอดเบี้ยประกันวินาศภัยเติบโต 30-50% ในปี 68

“ในฐานะที่เราเป็นคนทำงาน เรามีความพร้อมที่จะกลับมาเติบโตขึ้น จากการที่เราดูแลตัวเอง การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามา และเรามีความมั่นใจในพื้นฐานของกลุ่ม SAWAD ที่เราได้เตรียมความพร้อมมา ทั้งการปรับพอร์ตและควบคุมคุณภาพสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจให้กับกลุ่ม SAWAD มากขึ้น ซึ่งการขายหุ้นกู้ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน ซึ่งสะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนที่ให้กับ SAWAD ได้เช่นกัน” นางสาวธิดา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 68)