
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตือนว่า เขาอาจจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากจีนในอัตราสูงถึง 200% หากจีนไม่ส่งออกแม่เหล็กแร่หายากให้กับสหรัฐฯ
คำขู่ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการพักรบทางการค้าซึ่งสหรัฐฯ และจีนได้ตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าระหว่างกันลงเหลือ 55% และ 32% ตามลำดับ โดยการสงบศึกชั่วคราวนี้จะหมดอายุในช่วงกลางเดือนพ.ย.
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับอี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (25 ส.ค.) ว่า “จีนต้องส่งแม่เหล็กให้เรา ถ้าพวกเขาไม่ให้แม่เหล็ก เราก็ต้องเก็บภาษี 200% หรืออะไรทำนองนั้น”
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นเครื่องมือต่อรองสำคัญที่สหรัฐฯ สามารถใช้ตอบโต้จีนที่ควบคุมการส่งออกแร่หายากได้ โดยระบุว่า “เครื่องบินของพวกเขากว่า 200 ลำไม่สามารถบินได้ เพราะเราจะไม่ให้ชิ้นส่วนโบอิ้ง (Boeing) แก่พวกเขา เนื่องจากพวกเขาไม่ให้แม่เหล็กแก่เรา”
บริษัทโบอิ้งกำลังเจรจาข้อตกลงเพื่อขายเครื่องบินจำนวนมากถึง 500 ลำให้กับจีน โดยทั้งสองฝ่ายกำลังสรุปรายละเอียด เช่น รุ่นเครื่องบิน ประเภท และกำหนดส่งมอบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเครื่องบินมีบทบาทสำคัญต่อการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของปธน.ทรัมป์ มีขึ้นในช่วงเวลาที่การส่งออกแม่เหล็กหายากของจีนฟื้นตัวสู่ระดับก่อนที่รัฐบาลจีนจะออกมาตรการควบคุมการส่งออกในเดือนเม.ย. โดยข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลเผยว่า ปริมาณแม่เหล็กที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ พุ่งขึ้นกว่า 7 เท่า หรือ 660% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 76% ในเดือนก.ค.
จีนครองตลาดการผลิตแม่เหล็กแร่หายาก คิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของอุปทานโลก ส่งผลให้จีนมีอำนาจต่อรองอย่างมีนัยสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯ ต้องพึ่งพาแม่เหล็กแร่หายากสำหรับภาคการผลิตขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงานหมุนเวียน
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า หลี่ เฉิงกัง หัวหน้าคณะเจรจาการค้าอาวุโสของจีน จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อประชุมร่วมกับเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)