
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้าม หรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับลงวันที่ 12 มิ.ย.62 รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับลงวันที่ 4 ธ.ค.62
โดยมีสาระสำคัญ คือ การยกเว้นให้สามารถนำเข้ารถยนต์ใช้แล้ว ตามพิกัดอัตราศุลกากร 87.03 รถยนต์ และยานยนต์อื่น ๆ ที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก รวมถึงสเตชั่นแวกอน และรถแข่ง และพิกัดอัตราศุลกากร 97.06 รถยนต์ใช้แล้วที่มีอายุเกิน 100 ปีขึ้นไป (รถยนต์โบราณ) ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณลักษณะ ที่อธิบดีกรมสรรพสามิตประกาศกำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับมติครม. เมื่อวันที่ 22 เม.ย.68 เรื่องมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars)
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างประกาศดังกล่าว ผ่านระบบกลางทางกฎหมาย (www.law.go.th) และเว็บไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ (www.dft.go.th) ระหว่างวันที่ 10 – 24 มิถุนายน 2568 (รวมระยะเวลา 15 วัน) โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด 433 ราย มีผู้เห็นด้วย 378 ราย (87%) รวมทั้งได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จากกฎหมายตามกฎกระทรวงกำหนดร่างกฎที่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ พ.ศ. 2565 แล้ว
สำหรับผลที่จะเกิดขึ้นต่อภาคส่วนต่าง ๆ นั้น
1.ผลต่อเศรษฐกิจ เป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมสำหรับรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยทุกระดับ รวมทั้งเป็นการส่งเสริม อุตสาหกรรมการผลิตหรือบูรณะ (Restoration) รถยนต์โบราณ (Classic Cars) ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม
2. ผลต่อสังคม เป็นการปลูกฝังค่านิยมในการอนุรักษ์ และเห็นคุณค่าของรถยนต์โบราณ (Classic Cars) และเป็นการใช้ทุนวัฒนธรรมในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางรถยนต์โบราณ (Classic Cars)ในภูมิภาค ที่ดึงดูดผู้ที่สนใจจากทั่วโลกได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)