ชาวปาเลสไตน์เกือบ 48,000 ชีวิตหนีตายจากกาซาซิตี หลังอิสราเอลโจมตีภาคพื้นดิน

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เปิดเผยในวันอังคาร (16 ก.ย.) ว่า ชาวปาเลสไตน์เกือบ 48,000 คนได้อพยพออกจากกาซาซิตีและมุ่งหน้าไปทางใต้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เพื่อหลบหนีปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินของกองทัพอิสราเอล

OCHA ยังเปิดเผยด้วยว่า นับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ก.ย.) หรือในหนึ่งเดือน พบว่ามีการอพยพในลักษณะดังกล่าวมากกว่า 190,000 ครั้ง โดยผู้อพยพส่วนใหญ่ต้องเดินเท้า เนื่องจากค่าพาหนะมีราคาสูงมาก

“พันธมิตรของเรารายงานว่า ครอบครัวผู้พลัดถิ่น ซึ่งมักมีผู้หญิงและผู้สูงอายุเป็นผู้นำครอบครัว ต้องเดินเท้านานถึง 9 ชั่วโมงในสภาพอากาศร้อนจัด หลายคนต้องเดินเท้าเปล่า และบางกรณีมีเด็กที่ได้รับบาดเจ็บร่วมเดินทางด้วย” OCHA ระบุ “หลายครอบครัวเดินทางมาถึงโดยไม่มีที่พักอาศัย ทำให้ความต้องการเต็นท์ที่พักเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุด”

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พันธมิตรด้านสาธารณสุขของ OCHA ระบุว่า โรงพยาบาลและคลินิกยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก โดยในสัปดาห์นี้ โรงพยาบาลอัล-กุดส์ (Al-Quds Hospital) ในกาซาซิตี ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศในบริเวณใกล้เคียง และกลายเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่น ขณะที่จุดให้บริการทางการแพทย์ของ UN จำนวน 6 แห่งในกาซาซิตี ตอนนี้ให้บริการได้เพียง 3 แห่งเท่านั้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 68)