
หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์ อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งจะเป็นการปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางหลีกเลี่ยงการถูกชัตดาวน์
วุฒิสภาสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในการโหวตเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (30 ก.ย.) โดยพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาได้ขัดขวางมติการจัดสรรเงินทุนอย่างต่อเนื่อง (continuing resolution) ที่พรรครีพับลิกันนำเสนอเพื่อให้รัฐบาลดำเนินงานต่อไปได้เป็นการชั่วคราว โดยข้อเสนอดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนไม่ถึง 60 เสียง ซึ่งเป็นคะแนนที่จำเป็นสำหรับการผ่านร่างกฎหมาย
ในการเจรจาครั้งล่าสุด ผลประโยชน์ด้านการดูแลสุขภาพเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองพรรค โดยพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้มีการเพิ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการขยายเวลาให้เงินอุดหนุนภายใต้กฎหมาย Affordable Care Act (ACA) ที่จะหมดอายุในปลายปี ตลอดจนการฟื้นฟูคุณสมบัติการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวสำหรับผู้อพยพบางกลุ่มที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งรวมถึงผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิง
ในทางกลับกัน พรรครีพับลิกันต่อต้านมาตรการเหล่านี้ และได้ผลักดันให้มีการรักษาระดับเงินทุนของรัฐบาลในปัจจุบันไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้ทั้งสองพรรคมีเวลามากขึ้นสำหรับการเจรจา
– เดโมแครต vs รีพับลิกัน กล่าวโทษกันไปมา
พรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างก็กล่าวโทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายหนึ่งบีบให้รัฐบาลเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อบ่ายวันอังคารว่า พรรคเดโมแครตต้องการให้รัฐบาลถูกชัตดาวน์ โดยอ้างว่าการที่เดโมแครตยืนกรานที่จะให้การดูแลสุขภาพฟรีแก่ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร เป็นสาเหตุให้การเจรจาหยุดชะงัก
“พรรคเดโมแครตต้องการการชัตดาวน์ ดังนั้นเมื่อคุณชัตดาวน์ คุณก็ต้องปลดพนักงาน ดังนั้นเราจะทำการปลดพนักงานจำนวนมาก ซึ่งจะสร้างผลกระทบอย่างมาก และพวกที่ถูกปลดจะเป็นพวกเดโมแครต”
ทางด้านชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาได้โพสต์ตอบโต้ข้อความบน X ว่า “นี่คือการชัตดาวน์ของโดนัลด์ ทรัมป์ เขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้” โดยเขาได้รีทวีตวิดีโอคำกล่าวของทรัมป์ นอกจากนี้ ชูเมอร์ยังกล่าวด้วยว่าพรรครีพับลิกันกำลังโกหกเกี่ยวกับจุดยืนของพรรคเดโมแครต
“ไม่มีเงินดอลลาร์ของรัฐบาลกลางแม้แต่ดอลลาร์เดียวที่ใช้ในการจัดหาประกันสุขภาพให้กับผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร ไม่แม้แต่เพนนีเดียว” ชูเมอร์กล่าวในโพสต์อื่นบน X และเสริมว่า “พรรครีพับลิกันเลือกที่จะโกหกและชัตดาวน์รัฐบาล มากกว่าที่จะปกป้องการดูแลสุขภาพของคุณ”
– สหรัฐฯ เคยถูกชัตดาวน์นานที่สุดถึง 35 วัน
ความจริงแล้วงบประมาณที่จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ดำเนินการต่อไปได้นั้น ควรจะมาจากการจัดสรรงบประมาณประจำปี ซึ่งโดยปกติแล้วสมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งสองพรรคจะต้องผ่านร่างกฎหมายการจัดสรรงบประมาณประจำปีฉบับใหม่ ก่อนเริ่มปีงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ต.ค. แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การต่อสู้ทางการเมืองที่รุนแรงมักจะขัดขวางไม่ให้ทั้งสองพรรคสามารถทำข้อตกลงได้ทันเวลา
ในปีที่แล้ว รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้เผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูก “ชัตดาวน์” หลายครั้ง โดยสภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณการใช้จ่ายระยะสั้นอย่างเฉียดฉิว เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เงินทุนจะหมดลงในเดือนธ.ค. 2567 และเดือนมี.ค. 2568
สำหรับการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลกลางครั้งหลังสุดและยาวนานที่สุดเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2561 จนถึงต้นปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรก โดยในเวลานั้นพรรคเดโมแครตได้ต่อต้านการจัดหาเงินทุนที่ทรัมป์นำเสนอสำหรับการสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก และความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับการเข้าเมือง ซึ่งนำไปสู่การชัตดาวน์นาน 35 วันในเวลานั้น ส่งผลให้พนักงานของรัฐบาลกลางประมาณ 800,000 คนถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หรือลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 68)